การพรีวิวในพื้นที่อาจใช้งานได้ในปลายปีนี้ หลายเดือนหลังจากการเปิดตัวในประเทศใกล้เคียง แต่หลายเดือนก่อนการเปิดตัวที่มาเลเซียที่น่าจะเป็นไปได้ หวังว่าด้วยรูปทรงแฮทช์แบ็คแนวสปอร์ต
รถรุ่นใหม่นี้ยาวกว่ารุ่นก่อน 33 มม. ที่ 4,674 มม. โดยมีระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 36 มม. เป็น 2,736 มม. ส่งผลให้ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมพื้นที่วางขาด้านหลังเพิ่มเติม ความกว้างและความสูงเหมือนกับรุ่นก่อน บ่งบอกถึงโครงสร้างทั่วไปของ Civic FC
C-segment challenger ใหม่มีรูปลักษณ์ที่โค้งมนกว่ารุ่นก่อน ด้วยไฟหน้า LED ที่บางลงพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันรูปตัว L ไฟท้ายสไตล์ดั้งเดิม และกันชนหน้าและหลังที่โค้งมน
อาจฟังดูเหมือนเป็นการคิดใหม่ แต่ยังคงรักษาลักษณะทางพันธุกรรมที่สำคัญของ Civic รุ่นก่อนๆ ไว้ เช่น เส้นหลังคาแบบ fastback ความโค้งนี้ละเอียดกว่าและเลียนแบบ Accord ใหม่
ตาข่ายรังผึ้งสีเงินขยายกว้างขึ้นตามความกว้างของแผงหน้าปัด พร้อมช่องระบายอากาศด้านหลังที่ติดตั้งอย่างซ่อนเร้น ซึ่งคล้ายกับฟีเจอร์ ‘ม่านอากาศ’ ใน Audis รุ่นปัจจุบัน
พวงมาลัยใหม่และจอแสดงผลแบบดิจิตอลทั้งหมดได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าคลัสเตอร์แอนะล็อกส่วนใหญ่ในซีวิค เจนเนอเรชั่น 10 เหนือช่องระบายอากาศและระบบควบคุมสภาพอากาศคือระบบ Infotainment ของหน้าจอสัมผัสที่ใช้ Android
Honda Thailand จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในเดือนหน้า ก่อนการเปิดตัวไม่นานนัก หากไม่ใช่ในวันนั้นเอง แต่รายงานจาก Headlightmag บริษัทสัญชาติไทยอ้างว่า 2017 Civic นั้นใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ R18Z1 1.8 ลิตร i-VTEC ที่มีกำหนดจะเลิกใช้ ช่วงท้องถิ่น
ในอเมริกาเหนือมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรบรรยากาศที่มี 160 PS และ 187 Nm ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ของ Civic Type R ที่ไม่มีเทอร์โบชาร์จ
เราคาดว่าเครื่องยนต์ L15B7 1.5 ลิตร VTEC Turbo ของ FC จะกลับมาอีกครั้ง โดยให้กำลัง 173 PS และ 220 Nm ยูนิตที่มุ่งหมายสำหรับอเมริกาเหนือและตลาดยุโรปบางแห่งมีการปรับแต่งเครื่องยนต์ให้ผลิต 182 PS และ 240 Nm แต่ไม่ชัดเจนว่าการปรับแต่งดังกล่าวจะใช้ใน Civic สเปคไทยหรือไม่
Civic ใหม่พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดอย่าง City RS e:HEV เป็นไปได้ที่ยอดเยี่ยม แต่อาจไม่มาถึงภูมิภาคของเราจนกว่าจะถึงปี 2022 หรือหลังจากนั้น
Civics ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเบนซินทั้งหมดจะขับเคลื่อนล้อหน้าโดยใช้ Earth Dreams CVT ของผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งมีปุ่มเปลี่ยนเกียร์แบบ FC
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://thaihotnews.info/
