SPONSORED
BMW i7 xDrive60 M Sport First Edition 7,599,000 บาท
BMW i7 xDrive60 M Sport 7,849,000 บาท
BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso 8,599,000 บาท
i7 xDrive60
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 552 แรงม้า ที่ 5,000 – 12,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 745 นิวตันเมตร ที่ 0-5,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกันขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 101.7 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า มีกำลัง 262 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 365 นิวตันเมตร มอเตอร์ด้านหลัง มีกำลัง 317 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ชาร์จไฟจนเต็ม วิ่งไกล 625 กิโลเมตร เป็นรอง Mercedes Benz EQS เล็กน้อย ซึ่งเบ่งบานระยะทางได้ถึง 700 กิโลเมตร
SPONSORED
ระบบชาร์จพลังงานไฟฟ้า รองรับการชาร์จด้วยหัวชาร์จแบบ Type 2 / CCS Combo กระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW / กระแสตรง DC Fast Charging 195 kW หรือ จาก 10-80% ใช้เวลา 34 นาที หรือ ชาร์จ 10 นาที วิ่งได้ไกล 170 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
SPONSORED
ไฟหน้าคู่แบบใหม่ มีฟังก์ชันของระบบส่องสว่างที่แบ่งออกเป็นสองส่วน องค์ประกอบของไฟด้านบน ทำหน้าที่เป็นจุดโฟกัส ชิ้นงานถูกเน้นด้วยรายละเอียดของแก้วคริสตัลจากแบรนด์สวารอฟสกี้ (ออปชันเสริม) แก้วที่ส่องประกายแวววาว ทำให้ส่วนหน้าของ BMW i7 ดูหรูหรามากกว่าเดิม ไฟสองชั้นมีชุดไฟหน้า ไฟต่ำและไฟสูง อยู่ในตำแหน่งที่ลึกเข้าไปด้านใน ไฟเหล่านี้จะมองเห็นได้เมื่อมีแสงสว่างลดลง ไฟหน้าแบบ Adaptive LED ที่มาพร้อมไฟเลี้ยวและระบบไฟสูง ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ ยกหรือลดไฟสูงเพื่อไม่ให้แสงไฟไปรบกวนรถยนต์รอบข้าง Adaptive LED ที่มีซอฟต์แวร์แบบใหม่เติมความสามารถในการมองผ่านจุดที่มืดมิดในเวลากลางคืน ลำแสงที่เข้มกว่าปกติจะส่องไปยังไหล่ทาง ป้ายจราจร หัวมุมของโค้ง และจุดที่ไม่มีแสงสว่างทั่วทั้งถนนหากไม่มีรถแล่นสวนมา พร้อมกำลังในการส่องสว่างไกลกว่า 600 เมตร
SPONSORED
แถบไฟบางเฉียบด้านบน ควบรวมไฟขับขี่ในเวลากลางวัน LED Day Time Running Light ไฟเลี้ยว LED กราฟิกที่คมชัด จำลองรูปแบบตัว “L” ทำให้เกิดความรู้สึกที่ซับซ้อนทางเทคนิค ไฟหน้าคริสตัล สร้างเอฟเฟกต์แสงแบบใหม่ที่น่าทึ่ง ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ คริสตัลจากสวารอฟสกี้ ถูกจัดเรียงในรูปแบบของตัว L ไฟแบ็กไลท์แต่ละดวง ใช้หลอด LED จำนวน 14 ดวง ทำหน้าที่เป็นไฟเลี้ยวด้านข้าง และไฟขับขี่ในเวลากลางวัน ไม่ว่าจะเปิดหรือปิดไฟ คริสตัลจะสะท้อนแสงในมุมตกกระทบ แม้แต่แสงแดดก็ยังทำให้เกิดประกาย เป็นเอกลักษณ์ในโครงสร้างของชุดไฟคริสตัลที่เคยเห็นใน Mercedes-Benz S-Class Coupe ทำให้ส่วนหน้าของเรือธงลำใหม่ดูมีชีวิตชีวาในเวลากลางคืน หลอด LED จำนวน 22 ดวง ส่องสว่างผ่านแก้วคริสตัลจากด้านหลัง รวมเข้ากับการเรืองแสงของกระจังหน้ารูปไต เพื่อสร้างเอกลักษณ์ ชิ้นเลนส์ LED สองชิ้น บริเวณด้านล่างของแก้วคริสตัล คือไฟหรี่สำหรับขับขี่ในเวลากลางวัน ควบรวมสัญญาณไฟเลี้ยวและเพิ่มประกายของคริสตัลในแต่ละมุมของการตกกระทบ ไฟหน้าคริสตัลยังมีบทบาทในการแสดงภาพ Welcome and Goodbye Scenario เมื่อเจ้าของรถเข้าใกล้รถ ในขั้นตอนแรก การเปิดไฟรอบกระจังหน้า จะเปิดใช้งานขึ้นมาก่อนในอันดับแรก ตามด้วยประกายไฟที่เพิ่มขึ้นของไฟหน้าคริสตัล จากนั้น ไดนามิกของ Adaptive LED ก็เผยออกมาให้เห็น ไฟ LED ที่ธรณีประตู ฉายภาพกราฟิกสี่แบบ โดยทำการฉายทีละภาพ บนพื้นด้านนอกประตูของ BMW i7 การต้อนรับด้วยแสงนี้ยังลามเข้าไปถึงห้องโดยสาร เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบที่ประณีต ด้วยระบบดิจิทัลที่ผสานความหรูหราอย่างจงใจ
พื้นผิวที่เรียบของสเกิร์ตหน้า เน้นรูปลักษณ์แข็งแกร่งของ i7 จากขนาดความกว้างของรถ ช่องไอดีด้านล่างแบบชิ้นเดียว ฝากระโปรงหน้ามีเส้นสายไดนามิกลงมาที่กึ่งกลาง เสริมด้วยการออกแบบพื้นผิวที่ชัดเจน เส้นข้างตัวถังที่วิ่งจากไฟหรี่กลางวันไปยังไฟท้าย แบ่งแยกส่วนตัวถังออกจากกันอย่างชัดเจน เส้นที่สองเหนือสเกิร์ตข้าง ออกแบบให้มีตำแหน่งสูงขึ้นไปทางด้านหลัง มือจับประตูแบบฝัง ให้ความรู้สึกปราดเปรียว ขอบกระจกหน้าต่างด้านข้างติดกับเสา C จัดองค์ประกอบด้วยชิ้นงานโครเมียม เป็นส่วนหนึ่งของบอดี้เมื่อเปิดประตูด้านหลัง ประตูบานหลังยาว เปิดพื้นที่ให้ผู้โดยสารตอนหลัง เข้าและออก ได้อย่างสะดวก ขณะที่เสา C กว้างขึ้น และลวดลายกราฟิกที่ส่วนหลังของกระจกหน้าต่างด้านข้าง ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวขณะเดินทาง
มิติตัวถังภายนอกของ new Series-7 ขยายออกเพื่อความโปร่งโล่ง ขนาดของตัวถัง มีความสอดคล้องกับรุ่นฐานล้อยาวโฉมที่แล้ว (G12) สหรับเรือธงรุ่นใหม่ สัดส่วนความยาว ความสูง และเส้นผ่านศูนย์กลางล้อเพิ่มขึ้น 3% ตามลำดับ BMW 7 Series ใหม่มีความยาวเพิ่มขึ้น 129 มิลลิเมตร เป็น 5,384 มิลลิเมตร กว้างขึ้นนิดเดียวแค่ 48 มิลลิเมตร เป็น 1,930 มิลลิเมตร สูงขึ้น 50 มิลลิเมตร เป็น 1,580 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อตอนนี้ยาวขึ้น 5 มิลลิเมตร เป็น 3,200 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยปรับปรุงความสบายที่เบาะเจ้านายหรือเบาะด้านหลังให้ดีขึ้น พื้นที่ภายในห้องโดยสารมีการปรับปรุงอย่างชัดเจน ความจุสัมภาระในห้องเก็บสัมภาระท้ายเพิ่มขึ้นนิดเดียว ล้อแบบพิเศษขอบ 21 นิ้ว ยาง bridgestone turanza ไซส์ 255/40R21 102Y
บั้นท้ายมีการออกแบบพื้นผิวที่แบ่งส่วนอย่างชัดเจน เส้นแนวนอน เน้นความกว้างของรถ ฝังแผ่นป้ายทะเบียนไว้ที่ส่วนล่างของสเกิร์ตด้านหลัง ไฟท้าย LED บางเฉียบ ขยายไปถึงด้านข้างของรถ ความก้าวหน้าในพื้นผิวด้านข้าง ถูกเน้นด้วยเลนส์แก้ว รูปตัว “L” ที่คุ้นเคยจาก BMW ยุคใหม่ ประกอบด้วยแถบโครเมียมในตัวและแถบไฟท้ายที่อยู่ด้านล่าง ไฟเบรกและไฟเลี้ยวถูกสร้างขึ้นโดยออกแบบให้แถบความบางสองเส้นอยู่ใต้ไฟท้ายหลัก i7 xDrive60e มีเฉดสีเมทัลลิกเพิ่มเติม 3 เฉด ได้แก่ Dark Graphite metallic, Sparkling Copper metallic และ Space Silver metallic การเพิ่มสีสันใหม่ในสเปกตรัมของรถยนต์ที่ผลิตในซีรีส์สูงสุด คือ การเคลือบผิวแบบทูโทนจาก BMW Individual (ออปชันเสริมราคาแพง) เป็นครั้งแรกที่ Series-7 มีสีทูโทนให้เลือก ทำให้รถมีรูปลักษณ์ที่พิเศษเฉพาะตัว ส่วนของบอดี้เหนือแนวขอบตัวถังด้านข้าง มีให้เลือกสองสี ในขณะที่ส่วนล่างมีให้เลือกห้าเฉดสี เส้นนำสายตาที่วาดอย่างวิจิตรงดงามเพื่อแยกโซนสีทั้งสองออกจากกัน
การออกแบบห้องโดยสารล้ำอนาคต ด้วย BMW Curved Display และ BMW Interaction Bar
เน้นจุดศูนย์กลางการใช้งานอุปกรณ์ของคนขับ ตามแบบฉบับของแบรนด์ BMW ระบบดิจิทัลแบบใหม่ทำให้จำนวนปุ่ม สวิตช์ และส่วนควบคุมใน Cockpit ลดลง แถบตกแต่งภายในสำหรับแผงหน้าปัด สี Fineline Black พร้อมสีเมทัลลิก Inlay บน 740i และ 760i xDrive ส่วน Mirror Oak High Gloss จะอยู่ใน i7 xDrive60e BMW Curved Display จัดกลุ่มหน้าจอดิจิตอล ประกอบด้วยจอแสดงผลข้อมูลขนาด 12.3 นิ้ว หลังพวงมาลัย หน้าจอแสดงผลควบคุมขนาด 14.9 นิ้ว จอแสดงผลถูกจัดเรียงไว้ใต้พื้นผิวกระจกที่เชื่อมต่อกัน โดยหันหน้าจอภาพไปทางคนขับ ตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้ระบบควบคุมสั่งงานด้วยการสัมผัสใช้งานง่าย และตรงไปตรงมา
กราฟิกของ BMW Curved Display และโครงสร้างเมนูของระบบปฏิบัติการ OS8 ได้รับการออกแบบด้วยรูปลักษณ์สไตล์สมาร์ทโฟน อินเทอร์เฟซมีรูปแบบที่โดดเด่น เอฟเฟกต์แสงไดนามิก ความลึกของสี การปรับเปลี่ยนสีไปตามโหมดที่เลือก เลย์เอาต์กราฟิกการแสดงข้อมูลและเนื้อหาที่แสดงตรงกลางจอแสดงผล สามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์และความต้องการได้ การจัดเรียงวิดเจ็ตมีโครงสร้างชัดเจนบนหน้าจอหลัก ของหน้าจอควบคุม ช่วยให้เห็นภาพรวมของตัวเลือกเมนู
BMW Interaction Bar ไฟแถบเรืองแสงตกแต่งพิเศษ เปิดตัวครั้งแรกใน New Series-7 เป็นระบบไฟแบบใหม่เชื่อมโยงการควบคุม/การสั่งงาน และองค์ประกอบการออกแบบ ยูนิตแสงไฟตกแต่ง มีโครงสร้างพื้นผิวเป็นผลึกพร้อมไฟแบ็กไลต์ที่น่าทึ่ง ขยายจากด้านล่างแถบปิด ไปจนถึงความกว้างของแผงหน้าปัดและเข้าไปในแผงประตู ประกอบด้วยแผงควบคุมแบบสัมผัสเพื่อปรับอากาศและระบบควบคุมสภาพอากาศภายในห้องโดยสาร ไฟเตือนสัญญาณอันตราย การเปิดช่องเก็บของหน้ารถ การออกแบบไฟส่องสว่างของ BMW Interaction Bar มาจากจานสีของการตั้งค่า My Mode ที่เลือกไว้ หรือสามารถตั้งค่าตามที่ผู้ใช้ต้องการได้ นำมิติใหม่มาสู่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ขับและรถยนต์ โดยผสมผสานการควบคุมฟังก์ชันแสงโดยรอบ และความสามารถในการปรับลักษณะการตกแต่งได้ตามต้องการ เป็นส่วนประกอบที่ผสานรวมเป็นหนึ่งเดียว การเข้าและออกจากรถ จะมาพร้อมกับไฟสัญญาณต้อนรับซึ่งรวมไฟบนแถบ จากเมนูไฟสภาพแวดล้อม ผู้ขับสามารถเลือกปรับการทำงานและการตอบสนองของ BMW Interaction Bar ต่อเหตุการณ์ด้วยภาพเคลื่อนไหวของแสงแบบไดนามิก เช่น สายเรียกเข้า ผู้ช่วยส่วนตัวสามารถปรากฏบนแถบโต้ตอบของ BMW ด้วยแสงแห่งศิลปะ ว่ากันไปนั่นเลยทีเดียว
พวงมาลัยที่ออกแบบใหม่ มีสองก้านและขอบก้นแบน แผงควบคุมประกอบด้วยสวิตช์โยกและแป้นหมุนแบบเลื่อน รวมถึงปุ่มที่ให้การตอบสนองแบบสัมผัสเมื่อกด ใน New Series-7 แพ็กเกจ M Sport พวงมาลัยจะเป็นแบบสามก้านแนวคลาสสิก แผงควบคุมคอนโซลกลาง ออกแบบอย่างประณีตมีตัวควบคุม iDrive ปุ่ม Start/Stop การควบคุมระดับเสียงสำหรับระบบเสียง และปุ่มต่างๆ เพื่อควบคุมการทำงาน นอกจากนี้ยังมีปุ่ม My Modes ซึ่งมาแทนที่สวิตช์ควบคุมประสบการณ์การขับขี่ และคันเกียร์ที่ออกแบบใหม่ ไฟตกแต่ง LED ช่วยเน้นภาพให้กับแผงควบคุม แอปพลิเคชันพิเศษสำหรับการควบคุมแบบใหม่ คุณลักษณะการออกแบบที่ดึงดูดสายตาอย่างมีสไตล์ ใช้กับคันเกียร์ ตัวควบคุม ปุ่ม Start/Stop ตัวควบคุมระดับเสียงสำหรับระบบเสียงที่คอนโซลกลาง และตัวควบคุมการปรับเบาะนั่งที่รวมอยู่ในประตู
โครงสร้างที่ชัดเจนของแผงหน้าปัด สร้างการประสานงานที่กลมกลืนกันของพื้นผิวรอบที่นั่ง แนวเส้นของไฟตกแต่ง BMW Interaction Bar ลากไปจนถึงขอบประตูหน้า จากแผงควบคุมที่รวมสามารถเปิดใช้งานการอุ่นที่นั่งและจัดเก็บตำแหน่งที่นั่งที่ต้องการได้ การเน้นเสียงคุณภาพสูงยังมาในรูปของฝาครอบโลหะเจาะรูสำหรับลำโพงที่รวมอยู่ในประตูและช่องเก็บของที่มีไฟส่องด้านหลังอย่างละเอียด
ชุดควบคุมแบบดิจิตอลรวมอยู่ในส่วนขอบของประตูหลังแต่ละบาน หน้าจอสีขนาด 5.5 นิ้วพร้อมฟังก์ชันหน้าจอสัมผัส ทำให้ผู้โดยสารสามารถเลือกโปรแกรมความบันเทิง การแสดงภาพ และระดับเสียงได้เมื่อใช้หน้าจอ BMW Theater Screen หน้าจอสัมผัสควบคุมการปรับระบบเสียง ฟังก์ชันควบคุมสภาพอากาศภายในห้องโดยสาร การตั้งค่าการปรับที่นั่ง ปรับแต่งแสงโดยรอบ และม่านบังแดดด้านหลัง
เบาะนั่งแบบหลายรูปทรงที่พัฒนาขึ้นใหม่ เบาะนั่งมีพื้นผิวที่นั่งกว้างกว่าเดิม เช่นเดียวกับการปรับเบาะด้วยไฟฟ้าที่ครอบคลุม มาพร้อมระบบทำความร้อนเบาะนั่ง และส่วนรองรับเอวสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร สามารถเลือกตำแหน่งที่นั่งที่ต้องการได้โดยใช้ปุ่มควบคุมที่แผงประตู หรือโดยการสัมผัสบนหน้าจอควบคุม ผ่านเมนูที่เกี่ยวข้องในระบบ iDrive การระบายอากาศที่เบาะนั่งด้านหน้าแบบแอ็กทีฟ พร้อมการระบายความร้อนที่ปรับให้เหมาะสมใน 760i xDrive และ i7 xDrive60 แต่เป็นออปชันเสริมใน 740i ฟังก์ชันการนวด 9 โปรแกรม และเอฟเฟกต์แสงและเสียงเพื่อความผ่อนคลาย ด้านหลังของพนักพิงศีรษะมีการตกแต่งด้วยไม้อย่างมีสไตล์ เบาะนั่งด้านหลังแบบมัลติฟังก์ชันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน i7 xDrive60 เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับรุ่นอื่นๆ ในขณะที่ระบบระบายอากาศของเบาะนั่งแบบแอ็กทีฟและฟังก์ชันนวดสำหรับเบาะหลัง เบาะนั่งถูกปรับจากแผงควบคุมแบบสัมผัสดิจิตอลที่รวมอยู่ในขอบประตู ส่วนเบาะด้านข้างของพนักพิงช่วยให้เข้าและออกจากรถได้ง่าย ลำโพงในพนักพิงศีรษะด้านนอก ให้ความเพลิดเพลินในการฟังที่เข้มข้นเป็นพิเศษ ในเบาะนั่งแบบมัลติฟังก์ชัน ประสบการณ์ด้านเสียงได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วย ระบบเสียงรอบทิศทาง Diamond Bowers & Wilkins
เบาะด้านหลัง ประกอบด้วยฟังก์ชันปรับเอนได้ พร้อมที่พักขาในตัว สำหรับพื้นที่ด้านหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า เบาะรองนั่งบุนวม พร้อมแผ่นกระจกคุณภาพสูง ถาดใส่สมาร์ทโฟนในตัวสำหรับการชาร์จแบบไร้สาย การปรับมุมพนักพิงและมุมส่วนบนของพนักพิง ตำแหน่งไปข้างหน้า/หลัง และการเอียงพื้นผิวเบาะนั่งช่วยให้ตำแหน่งเอนกายสบายอย่างยิ่ง พนักพิงสามารถปรับเอนได้ถึง 42.5° เบาะรองคอที่ปรับได้เฉพาะตัวและ headroom ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง การออกแบบที่พักขา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่วยให้ผู้โดยสารอยู่ในท่าพักผ่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนรองรับน่องที่ยื่นออกมาจากพื้นผิวที่นั่งอย่างไร้รอยต่อ จับคู่กับที่พักส้นที่ยื่นออกมาจากด้านหลังของเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า เพื่อสร้างตำแหน่งที่นั่งและพื้นที่วางขา สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า สามารถเคลื่อนไปข้างหน้าได้เต็มที่ พนักพิงเอียงไปข้างหน้าจนถึงระดับสูงสุด นอกจากนี้ เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้ายังมีคุณสมบัติเสริมความสบายและช่วงการปรับตั้งของเบาะนั่งแบบมัลติฟังก์ชัน
แผงบุหลังคา BMW Individual Alcantara ด้วยสีที่เข้ากัน กับแถบตกแต่งหนังเสริม BMW Individual Merino เช่น Amarone, Smoke White, Mocha, Black หรือ Tartufo สามารถเลือกจากขอบไม้แบบ open pore ได้ 3 แบบ, คิ้ว Mirror Oak High Gloss, ขอบ Fineline Black สีเมทัลลิก หรือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างคาร์บอนไฟเบอร์และด้ายสีเงินที่เสริมด้วยพลาสติกเปียโนแบล็ก หน้าจอ BMW Theater พร้อม Amazon Fire TV ในตัว ระบบนี้ ใช้หน้าจอสัมผัส 8K ขนาด 31.3 นิ้ว เชื่อมต่อกับระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins Diamond พร้อมซัฟวูฟเฟอร์ในเบาะที่นั่ง รีโมทหน้าจอสัมผัสในตัวที่แผงประตู (BMW Touch Command) ระบบม่านบังแดดด้านหลังแบบอัตโนมัติที่ปิดลงทันทีเมื่อเปิดหน้าจอ BMW Theater หน้าจอ BMW Theater พร้อม Amazon Fire TV มีความละเอียดสูงถึง 4K/UHD รองรับแอปยอดนิยม สตรีมวิดีโอ เล่นเกม ดูหนังฟังเพลง รับข้อมูล และดูโปรแกรมที่ดาวน์โหลดในขณะเดินทาง Amazon Fire TV รวบรวมเนื้อหาที่ลูกค้าให้ความสำคัญมากที่สุดในที่เดียวโดยการรวมต้นฉบับการสตรีมยอดนิยม กีฬาถ่ายทอดสด และข่าว การสตรีมในแบบของคุณเอง โดยใช้โปรไฟล์ พร้อมคำแนะนำ ประวัติการดู และรายการที่บันทึก โปรไฟล์ใหม่ ยังช่วยให้ผู้โดยสารเบาะหลังสามารถชมภาพยนตร์หรือรายการทีวีเหมือนอยู่ที่บ้าน
ระบบเสียง Bowers & Wilkins ประสบการณ์การรับฟังเหนือระดับ ด้วยอีควอไลเซอร์เจ็ดแบนด์ ลำโพงสูงสุด 18 ตัว พร้อมตะแกรงโลหะสลักอย่างประณีต กำลังขับ 655 วัตต์ ระบบเสียงรอบทิศทาง Diamond Bowers & Wilkins เพิ่มประสบการณ์รับฟังคุณภาพสู คล้ายอยู่ในโรงภาพยนตร์ ที่ด้านหลังของ BMW 7 Series ไม่เพียงแต่มีลำโพง 36 ตัว ซึ่งสี่ตัวถูกรวมเข้ากับ headliner และเอาต์พุตของแอมพลิฟายเออร์ระดับ 1,965 วัตต์ แต่ยังรวมถึงคุณภาพเสียงด้วย ระบบเสียงที่แอ็กทีฟ พร้อมอีควอไลเซอร์เจ็ดช่องสัญญาณ ให้การควบคุมเสียงโดยใช้ไมโครโฟนโดยอิงตามประสิทธิภาพแบบไดนามิกและโหมดเสียงสี่โหมด ลำโพงเซอร์ราวนด์สองตัวรวมอยู่ในพนักพิงศีรษะของทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง ระบบเสียงรอบทิศทาง Diamond Bowers & Wilkins ใหม่ยังมีฟังก์ชันเสียง 4D สร้างขึ้นโดยใช้ตัวกระตุ้นที่พนักพิงที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง การสั่นที่ควบคุมด้วยแม่เหล็กที่มีความแม่นยำ ช่วยให้รับรู้ความถี่เบสได้ดีขึ้น แม้จะอยู่ในระดับเสียงต่ำ โหมดสาธิตเสียง ซึ่งรวมอยู่ที่นี่เป็นครั้งแรก ทำให้สามารถเรียกวิดีโอจากเมนู iDrive ที่มีความยาวประมาณหนึ่งนาที ซึ่งจะอธิบายศักยภาพเสียงที่ไม่ธรรมดาของระบบเสียง Diamond Bowers & Wilkins พร้อมฟังก์ชันการตั้งค่าและการปรับแต่งต่างๆ
ความแข็งแกร่งของ Body ที่เพิ่มขึ้น ล้อที่ใหญ่ขึ้นและยางที่กว้างขึ้น กับความกว้างของล้อหน้า 65.6 นิ้ว (เพิ่มขึ้น 1.9 นิ้ว) และ 64.9 นิ้วที่ด้านหลัง (เพิ่มขึ้น 0.16 นิ้ว) มาพร้อมความคล่องตัว การบังคับเลี้ยวที่แม่นยำ และการเร่งความเร็ว ระบบกันสะเทือนหน้าแบบปีกนกคู่ดับเบิ้ลวิชโบน กันสะเทือนหลังแบบ 5 link ได้รับการปรับปรุงใหม่ ติดตั้งเฟืองพวงมาลัยแบบยืดหยุ่น บนเฟรมย่อยของเพลาหน้า เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติด้านการเก็บเสียง เสริมด้วยแท่นยึดมอเตอร์เฉพาะรุ่นของ BMW i7 ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ แผงรับแรงเฉือนอะลูมิเนียมจะเพิ่มความแข็งแกร่งในการต้านทานแรงบิดที่ส่วนหน้า แท่นยึดระบบไฮโดรแบบใหม่ สำหรับซับเฟรมของเพลาล้อหลัง (แบบสองทิศทางใน i7) เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ของรถ
ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Adaptive Air Suspension พร้อมการปรับระดับแบบอัตโนมัติ เป็นระบบกันสะเทือนแบบปรับได้พร้อมโช้คอัพถุงลมที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบจ่ายลมในชุดกันสะเทือน ถูกควบคุมแยกกันสำหรับแต่ละล้อ ทำให้สามารถปรับระดับในขณะที่บรรทุกสัมภาระไม่เท่ากันได้ ทำให้ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมสองเพลา รักษาความสูงของรถได้อย่างเหมาะสมตลอดเวลาในทุกย่านความเร็ว ทำให้ควบคุมได้อย่างมั่นใจ ระบบนี้ยังช่วยปรับความสูงของรถให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในการขับ ความสูงจะลดลงโดยอัตโนมัติ 0.4 นิ้วในโหมด Sport ในขณะที่ My Modes อื่นๆ ความสูงจะลดลงในลักษณะเดียวกันเมื่อความเร็วผ่าน 120 กิโลเมตร ตัวถังยังสามารถยกขึ้นได้ 0.8 นิ้ว เมื่อขับเคลื่อนบนถนนที่ขรุขระ หรือบนทางลาดที่ทำมุมสูงชันโช้คถุงลมควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับล้อแต่ละข้าง มีความสามารถในการควบคุมที่เพิ่มความเสถียร โหมดสปอร์ตเปิดใช้งานการตอบสนองของโช้คอัพถุงลมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการควบคุมแบบไดนามิก สร้างคอนทราสต์ที่เห็นได้ชัดเจนกับการตั้งค่าที่เน้นความสบายมากกว่าใน My Modes อื่น
Integral Active Steering ทำให้ i7 บังคับทิศทางได้ง่ายขึ้น ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ มีอัตราส่วนการบังคับเลี้ยวแตกต่างกันไปตามมุมบังคับเลี้ยว รวมถึงระบบที่ไวต่อความเร็วของชุดเซอร์โวโทรนิก สำหรับการตอบสนองต่อการบังคับเลี้ยวแบบสปอร์ตหรือเน้นความสบาย Integral Active Steering ใน i7 xDrive60 ให้การบังคับเลี้ยวที่เบาแรงกว่า เพิ่มความคล่องตัวที่ความเร็วปานกลาง และเพิ่มความมั่นใจเมื่อเปลี่ยนเลนและเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ด้วยเหตุนี้ ล้อหลังจึงถูกหมุนไปในทิศทางเดียวกันหรือตรงกันข้ามกับล้อหน้า – ขึ้นอยู่กับความเร็วถนน – สูงถึง 3.5 ° การบังคับล้อหลังไปในทิศทางตรงกันข้ามกับล้อหน้า ในย่านความเร็วต่ำ ทำให้บังคับทิศทางได้ง่าย ลดวงเลี้ยวของ i7 ลงประมาณ 2.5 ฟุต.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://thaihotnews.info/
