SPONSORED

Urus S พลิกโฉมดีไซน์ใหม่ให้ลงตัวกับสมรรถนะ การกระตุ้นยอดขายที่ดีอยู่แล้วให้เพิ่มมากขึ้นไปอีกเป็นแผนงานที่ผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์กระทิงเปลี่ยวใช้สำหรับการเพิ่มความอยากได้ของลูกค้า 
ด้วยรถ 2 รุ่นใหม่ ทั้ง Urus S และ Urus Performante เข้ามาเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์ซุปเปอร์เอสยูวีของ Lamborghini ให้สมบูรณ์แบบ เพื่อทำให้มันเป็นรถที่ได้รับความนิยมมากกว่าซุปเปอร์คาร์รุ่นพี่อย่าง Avantador และ Huracan อย่างที่เคยทำสำเร็จในเวอร์ชันมาตรฐาน

Automobili Lamborghini แบรนด์ซุปเปอร์สปอร์ตคาร์หรูระดับโลกสัญชาติอิตาลี ประกาศเปิดตัว รถซุปเปอร์เอสยูวีรุ่นพิเศษ Urus S เพื่อสานต่อความสำเร็จของ Urus รุ่นเดิม ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในนิชมาร์เก็ตของซุปเปอร์เอสยูวี มาพร้อมการพาวเวอร์อัปกำลังเครื่องและฟังก์ชันอเนกประสงค์ เคียงคู่กับ Urus Performante สำหรับนักขับที่ต้องการสัมผัสเอสยูวีแนวสปอร์ตที่เน้นประสิทธิภาพความเร้าใจ “รถยนต์ตระกูล Urus ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถตอบโจทย์กลุ่มนักขับที่ต้องการสุดยอดเอสยูวีที่ผสานการขับขี่แนวสปอร์ตสนุกเร้าใจ เข้ากับการใช้งานที่สะดวกสบายทุกวัน เราจึงนำเสนอ Urus S คู่กับ Urus Performante ใหม่ เพื่อมอบอีกหนึ่งความสมบูรณ์แบบแห่งดีไซน์สุดหรู สมรรถนะขั้นสุดยอด และฟังก์ชันอเนกประสงค์ครบครัน” สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าว “ความสำเร็จของรถยนต์ตระกูล Urus ซึ่งมียอดการผลิตมากกว่า 20,000 คัน คือบทพิสูจน์แห่งความโดดเด่นในฐานะต้นฉบับแห่งซุปเปอร์เอสยูวีที่แท้จริง และ Urus S ตอกย้ำความสำเร็จของเราให้เด่นชัดยิ่งขึ้น”

SPONSORED

เครื่องยนต์ Twin-turbo V8 มีกำลังสูงถึง 666 แรงม้า เทียบเคียงกับรุ่น Urus Performante อัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์ดีขึ้นที่ 3.3 กิโลกรัม ต่อ 1 แรงม้า เช่นเดียวกับอัตราเร่งที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ จาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.5 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ใน 12.5 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 305 กม./ชม. ซึ่ง Urus S สามารถเบรกจากระดับความเร็ว 100 กม./ชม. จนรถหยุดนิ่งได้ในระยะทางเพียง 33.7 เมตร เครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ทำแรงบิดทะลุทะลวงสูงสุดถึง 850 นิวตันเมตร ที่ 2,300 รอบต่อนาที ถึง 6,000 รอบต่อนาที ระบบท่อไอเสียที่ปรับแต่งใหม่ในสไตล์ซุปเปอร์เอสยูวี นับตั้งแต่เริ่มสตาร์ตและให้เสียงที่คมชัดแตกต่างไปในแต่ละโหมดการขับ

SPONSORED

โครงแชสซีของ Urus ติดตั้งระบบช่วงล่างถุงลมแบบ adaptive ทำงานให้รถมีความราบรื่นบนท้องถนน ทั้งในโหมด STRADA, SPORT, CORSA และ EGO พร้อมการตอบสนองแรงบิดที่ฉับไวและการรักษาความเสถียรของตัวรถ เพื่อให้เหมาะกับการขับแบบออฟโรดทั้งในโหมด TERRA, NEVE และ SABBIA ด้วยการคาลิเบรตระบบส่งกำลังแบบเดียวกับ Urus Performante ทำให้ Urus S ตอบสนองตามโหมดที่ใช้งานได้ดี สัมผัสการควบคุมที่หรูหรา ภูมิฐาน ในการขับขี่ประจำวันจากแชสซีที่ได้รับการปรับแต่ง

SPONSORED

Urus S ยกระดับงานออกแบบที่กลายเป็นเอกลักษณ์ เน้นรูปลักษณ์แนวสปอร์ตหากยังคงความหรูหราของยานยนต์ไลฟ์สไตล์ไว้อย่างกลมกลืนเพื่อมอบความโดดเด่นที่แตกต่างจากเอสยูวีรุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน ด้วยออปชันการปรับแต่งใหม่ เช่น โทนสี อุปกรณ์เสริม ล้อ แพ็กเกจการตกแต่ง และรายละเอียดพิเศษอื่นๆ ที่แสดงตัวตนของเจ้าของรถได้อย่างชัดเจน งานออกแบบกันชนหน้าผนวกเส้นสาย เข้ากับการเคลือบผิวแผ่น Skid plate สแตนเลสสตีลสีดำด้านรูปแบบใหม่ เสริมด้วยเส้นสายสีดำดู ของส่วนตะแกรงหน้า ออปชันการตกแต่ง 5 รูปแบบ ทั้งโทนสีตัวรถ การเคลือบสีดำเงา และชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ ทั้งแบบเงาและด้านอย่างสมดุล ทำให้เจ้าของรถสามารถตกแต่ง Urus S ให้สะท้อนถึงสไตล์ที่แตกต่างได้อย่างตรงใจ ฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบารุ่นใหม่ มาพร้อมช่องระบายอากาศสีดำด้าน สามารถเลือกออปชันสีดำเงาแบบ Gloss Black รวมถึงสีตัวรถ หรือชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ เลือกได้ทั้งแบบเงาและด้าน ออปชันหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ทำให้น้ำหนักหลังคาลดลง

กันชนหลังออกแบบใหม่ให้มีความกลมกลืนและดุดัน ส่วนล่างเคลือบสีดำด้านที่ติดตั้งกับท่อไอเสียคู่ดีไซน์ใหม่ พร้อมทำผิว Brushed steel แบบมาตรฐาน มีออปชันสีดำด้าน หรือดำเงาได้ตามต้องการ ไปจนถึงการตกแต่งแบบ Ad Personam ในสีโครเมียมโทนสว่าง ล้อขนาด 21 นิ้วแบบมาตรฐาน กับอุปกรณ์ตกแต่งใหม่อื่นๆ ทั้งล้อ Nath ขนาด 22 นิ้ว แบบ Titanium Matt และ Diamond Polish หรือล้อ Taigete ขนาด 23 นิ้ว ที่เลือกได้ทั้งสี Bronze และ Diamond Polish

การตกแต่งห้องโดยสารของ Urus S ได้รับการออกแบบโทนสีและส่วนตกแต่งใหม่ทั้งหมด ออปชัน Bi-color Sportivo และ Bi-color Sophisticated มีรูปแบบตะเข็บที่เหมือนกับของ Urus Performante การตกแต่งแบบ Bi-color Sportivo เน้นบรรยากาศสปอร์ตและดุดัน ในขณะที่ Bi-color Sophisticated เน้นความหรูหราภูมิฐาน การตกแต่งด้วยโทนสีเฉพาะ การใช้หนังสีดำเนื้อละเอียดมาจับคู่กับโทนสีใหม่ที่ตัดกันอย่างงดงาม ร่วมกับสี Blu Leandro และ Verde Aura ที่พัฒนาใหม่ ควบคู่ไปกับสีแทน ครีม และน้ำตาลอย่างลงตัว Urus S สามารถปรับแต่งรถยนต์ในฝันด้วยโทนสีและอุปกรณ์ตกแต่งใหม่

Urus S มาพร้อมระบบการเชื่อมต่อออนไลน์ที่ครบครันทั้งระบบการนำทาง ระบบความปลอดภัย และบริการควบคุมมากมายจากภายในตัวรถ โดยสามารถใช้งานได้ผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รวมถึงการควบคุมจากสมาร์ทวอชต์ อาทิ ฟังก์ชัน Virtual Car Key

CHASSIS AND BODY

Chassis Integral lightweight body in aluminum composite design
Body shell Outer skin made from aluminium and composite material

Suspension Multi – link front and rear
Springs and dampers Adaptive air suspension, electromechanical active roll stabilization, electronically controlled semi – active dampers
Electronic Stability Control (ESC) ESC/ABS characteristics can be adjusted via TAMBURO, ESC can be deactivated
Steering Electromechanical power steering, steering gear with different servotronic characteristics and Lamborghini Rear – wheel Steering (LRS), managed by the Tamburo drive modes
Steering wheel ratio 13.3:1
Brakes Front and Rear carbon – ceramic brakes discs with front monoblock aluminum 10 piston brake calipers and rear cast iron floating 1 piston brake calipers with integrated electric parking brake
Brake discs Carbon ceramic discs, ventilated Ø 440 x 40 mm front Ø 370 x 30 mm rear
Tires (standard) PIRELLI PZERO 285/45 ZR21 (front) – 315/40 ZR21 (rear)
Wheels (standard) 9,5Jx21″ ET28 (front) 10,5Jx21″ ET18 (rear)
Mirrors Electrically controlled exterior mirrors
Airbags Up to 8 Airbags: front driver and passengers airbag, front and rear side airbags, curtain airbag for head protection

ENGINE

Type Eight – cylinder V, 90°
Displacement 3.996 cm3
Bore / stroke Ø 86 mm x 86 mm
Valve control Intake and exhaust camshafts with continually variable adjustment
Turbocharger Bi – turbo twin – scroll
Compression 9.7: 1
Max. power 490 kW / 666CV at 6,000 rpm
Max. torque 850 Nm at 2,300 – 4,500 rpm
Emissions class EURO6
Exhaust treatment 4 catalyst with lambda regulation
Cooling system Water cross flow cooling
Engine Management Bosch

DRIVETRAIN

Type 4WD with integrated front differential, central differential (Torsen) and active torque vectoring rear differential
Transmission 8 – speed automatic gearbox, characteristic depending on TAMBURO drive mode
PERFORMANCE

Top Speed 305 km/h
0 – 100 km/h 3.5 s
0 – 200 km/h 12.5 s
Braking (100 – 0 km/h) 33.7 m
DIMENSIONS

Wheelbase 3,003 mm
Length 5,112 mm
Width 2,018 mm
Width (incl. ext. mirrors) 2,181 mm
Height 1,638 mm
Track front 1,695 mm
Track rear 1,710 mm
Kerb-to-kerb turning circle 11.8 m – average value, variable due to dynamic condition, thanks to Lamborghini Rear – wheel Steering (LRS)
Weight (DIN/Curb) 2,197 kg
Weight/power 3.3 kg/CV
Weight Distribution 58% (front) – 42% (rear)

CAPACITIES

Fuel 85 liters
Trunk 616 liters
CONSUMPTION (WLTP)

Combined fuel consumption 14,1 l/100km CO2 emission 320 g/km

ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://thaihotnews.info/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *