
ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด และ มอเตอร์ อิมเมจ บริษัทในเครือ ร่วมกับ Subaru แนะนำรถเอสยูวีรุ่นปรับโฉม Subaru Forester 2023 พร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่ล่าสุด EyeSight 4.0 คุณสมบัติ ADAS (Advanced Driver-Assistance System) ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติระดับ 2 เป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยของแบรนด์หมู่ดาว ระบบความปลอดภัย EyeSight 4.0 พัฒนาสัญชาตญาณปกป้องความปลอดภัยขณะขับเคลื่อน ด้วยความแม่นยำสูงสุด จากกล้องสเตอริโอคู่หน้าที่อัปเกรดคุณสมบัติใหม่
.css-1b3yg0y #forum2022-logoSponsor{text-align:center;}.css-1b3yg0y .forum2022-logoSponsor-text{font-family:”KaLaTeXa Display”;font-size:10px;position:relative;z-index:3;}.css-1b3yg0y .forum2022-logoSponsor-text span{background-color:#ffffff;padding:0 10px;position:relative;z-index:3;}.css-1b3yg0y .forum2022-logoSponsor-text::after{content:”;height:1px;width:100%;background-color:rgb(216,216,216);position:absolute;top:50%;left:0;-webkit-transform:translateY(-50%);-ms-transform:translateY(-50%);transform:translateY(-50%);z-index:2;}.css-1b3yg0y ul.forum2022-logoSponsor{padding:0;margin:0;list-style:none;display:-webkit-box;display:-webkit-flex;display:-ms-flexbox;display:flex;-webkit-flex-wrap:wrap;-ms-flex-wrap:wrap;flex-wrap:wrap;gap:15px;-webkit-box-pack:center;-webkit-justify-content:center;-ms-flex-pack:center;justify-content:center;}.css-1b3yg0y ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor{height:80px;}.css-1b3yg0y ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor img{height:80px;}



SPONSORED

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแฝงโหมดครอบคลุมการลุยอย่าง X-MODE คิดค้นและใช้ในรถ Forester รุ่นที่ 4 ในปี 2012 ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีหลักคือ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถที่สามารถลุยฝ่าทางออฟโรด ช่วยให้ขับได้อย่างปลอดภัยและง่ายขึ้น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร Symmetrical All-Wheel Drive สามารถไปในพื้นที่ที่รถเก๋งเข้าไม่ถึง

Subaru Forester รุ่นปรับโฉม 2023 มีกำหนดเริ่มจำหน่ายในประเทศไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา ในปลายปี 2565 นี้ สำหรับประเทศไทย จะเริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 เป็นต้นไป การเปิดตัวในครั้งนี้ มีการเชิญสื่อมวลชนจากสี่ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อขับทดสอบ Subaru Forester รุ่นปรับโฉม 2023 ณ สนามปทุมธานีสปีดเวย์ และเยี่ยมชมโรงงาน ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นโรงงานที่ประกอบ Subaru Forester เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของ 4 ตลาดหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้



SPONSORED

Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 5 นี้ เป็นรถเอสยูวีที่มีชื่อเสียงด้านความปลอดภัย เครื่องยนต์สูบนอน จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ช่วงล่างที่เน้นความนุ่มนวลและแข็งแกร่งมากพอที่จะลุยฝ่าเส้นทางวิบาก สมรรถนะการขับขี่โดดเด่นจากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (50/50) ระบบกล้องสเตอริโอคู่หน้าได้รับการอัปเกรดให้สามารถตรวจจับวัตถุได้แม่นยำและในระยะที่กว้างมากขึ้น ระยะการมองเห็นวัตถุรอบรถกว้างกว่าเดิมถึงเกือบสองเท่าตัว จึงทำให้ผู้ขับรู้สึกถึงความปลอดภัยจากทัศนวิสัยที่กว้างและมองสบายยิ่งขึ้น
i-L Eyesight ซึ่งเป็นหนึ่งในรุ่นย่อยของ Forester ให้เป็นทางเลือกของลูกค้าอีกกลุ่มที่ต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้แบบใหม่ รุ่น i-L EyeSight เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมให้กับเจ้าของที่เน้นเรื่องความปลอดภัย เน้นเรื่องขนาดของห้องโดยสารและความสะดวกสบาย เช่น ครอบครัวที่มีลูกเล็ก และคำนึงถึงความปลอดภัย กำลังมองหารถเอสยูวีคันแรกที่มีขนาดใหญ่และวางใจได้

SPONSORED
Subaru พัฒนาระบบ X-MODE และถูกใช้ในรถ Forester รุ่นที่สี่เป็นครั้งแรกในปี 2012 และได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นใน Forester รุ่นที่ 5 โดยทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ซึ่งให้ความปลอดภัย สำหรับการขับขี่บนเส้นทางแบบออฟโรด ผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Subaru ที่ไม่สามารถหาได้ในรถ EV ถ้าหากขับขี่บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความท้าทาย X-MODE สามารถตอบโจทย์การใช้งานบนเส้นทางวิบากได้ดี


Forester Minor Change 2023 ได้รับการปรับโฉมภายนอกให้ดูไดนามิกมากขึ้น ปรับดีไซน์ของกระจังหน้า ไฟหน้า และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว2 ให้ความรู้สึกที่พร้อมจะออกไปท่องโลกกว้าง ช่วงล่าง ถูกปรับแต่งให้มีความนุ่มนวล เน้นไดนามิกที่ทำให้ควบคุมได้ง่ายขึ้น
SPONSORED
สีภายนอกใหม่ 3 สี ได้แก่
สีเงิน บริลเลียนท์ บรอนซ์ เมทัลลิก (Brilliant Bronze Metallic)
สีเขียว แคสเคด กรีน ซิลิกา (Cascade Green Silica)
สีเทา แมกนิไทต์ เกรย์ เมทัลลิก (Magnetite Gray Metallic)
สีปัจจุบันที่มีอยู่ ได้แก่
สีขาว คริสตัล ไวท์ เพิร์ล (Crystal White Pearl)
สีเงิน ไอซ์ ซิลเวอร์ เมทัลลิก (Ice Silver Metallic)
สีดำ คริสตัล แบล็ก ซิลิกา (Crystal Black Silica)
สีฟ้า ฮอริซอน บลู เพิร์ล (Horizon Blue Pearl)





เบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับเป็นพื้นราบเมื่อต้องการพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระจำนวนมากเมื่อเดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัดช่วงสุดสัปดาห์ การทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือช็อปปิ้ง
การปรับดีไซน์ภายใน ประกอบด้วย
– ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารเป็นไฟ LED ให้ความสว่างและกินพลังงานต่ำ
– ขอเกี่ยวด้านบนบริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระ ใช้งานได้จริงและสะดวก เป็นอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นจากขอเกี่ยว 4 จุดที่อยู่ด้านล่าง (เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบกิจกรรมผจญภัยกลางแจ้ง)
สมรรถนะ
เอกลักษณ์ของ Subaru คือ 4 เทคโนโลยีหลักที่ทำให้ Forester Minor Change 2023 มีสมรรถนะการขับโดยรวมดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน ทั้งในเรื่องของการควบคุม ความปลอดภัย และความสบาย




4 เทคโนโลยีหลัก
1. Subaru Global Platform (SGP) แพลตฟอร์มออกแบบด้วยวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ ได้แก่ การเพิ่มความเสถียรของตัวถัง ลดเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือน และเพิ่มความสบายในห้องโดยสาร เป็นโครงสร้างที่ให้ตัวอย่างเหมาะสม ในทุกรูปแบบสภาพถนน SGP เป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานของรถยนต์ Subaruในอนาคตทุกรุ่น โครงสร้าง SGP นี้ ทำให้ความรู้สึกของการขับรถ Subaru มีความนิ่งและเสถียร


2. Symmetrical All-Wheel Drive (SAWD) 3 ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร กระจายกำลังขับเคลื่อนไปทั้งสี่ล้ออย่างอิสระ SAWD ยึดเกาะถนน เพิ่มความปลอดภัย ระบบจะกระจายกำลังไปยังล้อที่ต้องการกำลังมากกว่า เพื่อรักษาสมดุลในการควบคุมรถ โดยเฉพาะขณะเลี้ยวหรือเข้าโค้ง

3. Boxer Engine เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ เป็นหัวใจสำคัญของสมรรถนะของ Subaru ที่มาของชื่อมาจากการเคลื่อนที่ของลูกสูบในแนวนอน เหมือนลักษณะของการชกเข้าหากัน เป็นเครื่องยนต์ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ รักษาสมดุลของรถ ทำให้บังคับควบคุมรถได้ง่าย ขับสนุก

4. เทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูง EyeSight ตรวจจับสิ่งแวดล้อมรอบรถ มองหาอันตรายที่อาจไม่ทันระวัง
เทคโนโลยีหลักของทั้งสี่ คือปรัชญาของ Subaru ที่เน้นปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เป็นเหตุผลว่า รถมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และใช้หลักวิศวกรรม เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัย ความสบาย และไว้วางใจได้ที่สุด Subaru และความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เป็นเหตุผลว่า ทำไมรถยนต์ของแบรนด์นี้ จึงมีการปรับและทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยมายาวนานกว่า 50 ปี
เทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูง และอีก 3 เทคโนโลยีหลัก สะท้อนถึงนโยบาย People First ของ Subaru ความปลอดภัยรอบคันถูกปรับปรุง เพื่อลดโอกาสการชนบนท้องถนน

เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ แบบสูบนอนขนาด 2.0 ลิตร ไดเร็กอินเจ็กชัน จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน CVT (Lineartronic Continuously Variable Transmission) พร้อมโหมดแมนนวล 7 สปีด



เครื่องยนต์เบนซิน Boxer เป็นเครื่องยนต์ที่มีความแตกต่างจากเครื่องยนต์สูบเรียง และมีแค่สองแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์เท่านั้นที่ยังคงใช้เครื่องยนต์แบบนี้ (Porsche / Subaru) เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอน Boxer ขนาด 2.0 ลิตร ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1,995 ซีซี. จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดตรงแบบ Direct Injection พร้อมการออกแบบระบบไอดีที่มีความเหมาะสมเพื่อการตอบสนองที่ดี เครื่องยนต์ตัวนี้มีกำลังสูงสุดแค่ 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ดูเหมือนน้อยเกินไป แต่พอขับแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ารถอืดเกินทนหรือมีกำลังไม่พอ เครื่องยนต์สูบนอน 2.0 ลิตร ต่อเชื่อมกับระบบส่งกำลังซึ่งใช้เกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD Symmetrical All-Wheel Drive ระบบช่วงล่างด้านหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัท
ช่วงล่างด้านหลัง ปีกนกคู่ เบรกหน้า ดิสก์เบรกแบบระบายอากาศ เบรกหลัง ดิสก์เบรกแบบระบายอากาศ พวงมาลัยไฟฟ้าแรคแอนพีเนียน รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.4 ม.


เกียร์อัตโนมัติแบบ Lineartronic – continuously variable transmission CVT อัตราทดแปรผัน ติดตั้งระบบล็อกอัพเพื่อเปิดโอกาสให้คนขับสามารถชิฟเกียร์เองได้บนเส้นทางคดเคี้ยว หรือเส้นทางวิ่งขึ้น-ลงภูเขาที่สูงชันโดยมีตำแหน่งเกียร์แมนนวลมาให้ เป็นความสามารถของเกียร์อัตโนมัติที่ใช้สายพานแบบโซ่หรือเกียร์ CVT ที่แข็งแกร่งและถ่ายทอดกำลังได้ดีกว่าเกียร์ CVT ที่ใช้สายพานยาง แม้จะใช้สายพานโลหะแต่ความนิ่มนวลในการส่งถ่ายแรงบิดจากเครื่องยนต์ไปยังล้อขับเคลื่อนทั้งสี่ก็ยังคงความนิ่มนวลในการทดกำลัง เนื่องจากการออกแบบห้องเกียร์และการวางกลไกของชุดเฟือง สมรรถนะที่เคลมจากโรงงาน เจ้า Subaru Forester 2.0i-S มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 10.9 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 192 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Subaru Forester รุ่นปรับโฉม 2023 มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 7 สี พร้อมสีใหม่
สีภายนอกใหม่ 3 สี
Brilliant Bronze Metallic
Cascade Green Silica
Magnetite Gray Metallic
สีภายนอกปัจจุบัน
Crystal White Pearl
Ice Silver Metallic
Crystal Black Silica
Horizon Blue Pearl
ราคาของ Subaru Forester รุ่นปรับ จะประกาศอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 39 รอบสื่อมวลชน

ข้อตกลงร่วมกันระหว่าง ตันจง อินเตอร์เนชันแนล ลิมิเต็ด ประเทศสิงคโปร์ และ Subaru Corporation ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2019 โรงงาน ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) หรือ TCSAT ณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ได้สร้างการจ้างงาน รวมถึงการถ่ายทอดทักษะด้านเทคโนโลยีขั้นสูงให้กับแรงงานฝีมือชาวไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ Subaru Corporation ตั้งใจที่จะให้เกิดขึ้น
บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตรในเขตนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โรงงาน ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) มีกำลังการผลิตสูงสุด 100,000 คันต่อปี ถูกออกแบบเพื่อผลิตรถ Forester ป้อนตลาดประเทศไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา รถทุกคันที่ผลิตจากโรงงานนี้ เป็นไปตามการควบคุมมาตรฐานคุณภาพขั้นสูง ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตเดียวกันกับที่ประเทศญี่ปุ่น โรงงาน TCSAT นี้ ผ่านการตรวจสอบคุณภาพการผลิตที่ Subaru Corporation ประเทศญี่ปุ่น

เทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูง EyeSight 4.0
EyeSight 4.0 เป็นเทคโนโลยีที่เน้นการยกระดับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับ จากกล้องสเตอริโอคู่หน้าที่ได้รับการพัฒนาใหม่ และถูกติดตั้งไว้ใกล้ตำแหน่งของกระจกมองหลัง สามารถตรวจจับวัตถุได้ในวงกว้างและแม่นยำ มอบความอุ่นใจทุกครั้งที่ขับขี่
EyeSight 4.0 มีระบบความปลอดภัยมากถึง 9 ระบบ โดยรวม 3 ระบบใหม่ไว้ด้วย ดังนี้
– Autonomous Emergency Steering1 ระบบบังคับพวงมาลัยฉุกเฉินอัตโนมัติ ช่วยหักหลบจากรถหรือวัตถุที่อยู่ด้านหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการชน (ระบบทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
– Adaptive Cruise Control (ACC) with Lane Centering Function ระบบไปและหยุดตามคันหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน ช่วยรักษาทิศทางของรถ ให้อยู่ตรงกลางเลนจราจร ทั้งถนนทางตรงและทางโค้ง เป็นฟังก์ชันที่เพิ่มเติมขึ้นมา เพื่อช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า พร้อมลดหรือเพิ่มความเร็วอัตโนมัติตามรถคันหน้า ให้ความสะดวก โดยเฉพาะการขับบนถนนไฮเวย์
– Lane Departure Warning include Lane Departure Prevention ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนพร้อมระบบบังคับรถกลับเข้าเลน หากระบบตรวจจับว่ารถกำลังคร่อมเส้นแบ่งเลน จะดึงพวงมาลัยนำรถกลับเข้ากลางเลนโดยอัตโนมัติ (ระบบทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป)

ระบบ Pre-Collision Braking และ Adaptive Cruise Control ยังถูกพัฒนาให้ล้ำหน้าขึ้นอีกขั้น
EyeSight 4.0 มีระบบ Pre-Collision Braking ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ช่วยปกป้องความปลอดภัยได้ในสถานการณ์การขับขี่ ตามสี่แยกจราจร จุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พัฒนากล้องสเตอริโอคู่หน้าให้มีระยะตรวจจับวัตถุกว้างกว่าเดิม (จากมุมซ้ายถึงมุมขวา) ถึงเกือบสองเท่า รวมทั้งจากมุมบนถึงมุมล่าง

จากมุมซ้ายถึงมุมขวา กล้องจะตรวจจับวัตถุหรือสิ่งกีดขวางได้กว้างและไกลขึ้น อันช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนได้มาก ตรวจจับวัตถุได้ไม่เพียงเฉพาะในเลนที่อยู่เท่านั้น ยังกว้างไปครอบคลุมเลนข้างๆ ด้วย ตัวอย่างเช่น รถในเลนสวน และคนข้ามถนนจากทั้งทิศทางซ้ายและทิศทางขวาของสี่แยกจราจร

Subaru Rear Vehicle Detection (SRVD)1 ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลัง ระบบเรดาร์เซนเซอร์จะตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหลังรถ และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับหากจะเปลี่ยนเลนบนถนนหรือถอยหลังในที่จอดรถ
High Beam Assist (HBA)1 ไฟหน้าปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ เป็นฟังก์ชันใหม่ที่ให้มาเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยที่ปลอดภัย โดยเฉพาะเวลากลางคืน หรือบนถนนที่มืด ลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ ทำงานคู่กับกล้องสเตอริโอคู่หน้า ไฟหน้าอัจฉริยะจะปรับไฟหน้าสูง-ต่ำให้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องรอให้ผู้ขับสั่งการ และไม่ต้องกังวลว่าไฟหน้าจะรบกวนการขับขี่ของรถคันอื่น
ลักษณะการทำงานคือ เมื่อกล้องสเตอริโอคู่หน้าจับได้ว่าแสงบนถนนสว่างพอ เช่น มีแสงจากไฟถนน หรือเมื่อมีรถอยู่ข้างหน้าในเลนที่ตรงกัน และเลนด้านข้าง ไฟหน้าจะปรับเป็นไฟต่ำโดยอัตโนมัติ ระบบนี้มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะการขับขี่บนถนนนอกเมืองในประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา เพราะผู้ขับไม่ต้องกังวลเรื่องการปรับไฟหน้า และเห็นทางข้างหน้าได้ชัดขึ้น ทำให้การขับเวลากลางคืนมีความปลอดภัยมากขึ้น

X-MODE พัฒนาใหม่ ให้ความปลอดภัย ความคล่องตัว และความสะดวกสบาย หมุนปุ่ม ระบบ X-MODE จะช่วยให้ผู้ขับฝ่าเส้นทางขรุขระ ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร “Symmetrical All-Wheel Drive” สามารถลุยฝ่าเส้นทางสุดโหด หรือทางชันที่ลื่น ผู้ขับสามารถเลือกใช้โหมด Snow/Dirt และ Deep Snow/Mud เพื่อให้เหมาะสมกับเส้นทาง
ระบบ X-MODE จะอยู่ที่ Stand by เมื่อใช้ความเร็วรถเกินกว่า 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะทำงานกลับมาทำงานอัตโนมัติ เมื่อความเร็วรถลดลงต่ำกว่า 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน โดยเฉพาะเส้นทางที่มีความยากลำบากที่ต้องใช้ระบบ X-MODE

ระบบ Hill Descent Control ใน X-MODE ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ช่วยควบคุมความเร็วรถขณะลงเนินหรือลงเขาในสภาพถนนลื่น ซึ่งลักษณะถนนประเภทนี้ พบมากในประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซียและกัมพูชา ให้ขับได้อย่างสบายไร้กังวล มีสมาธิในการควบคุมทิศทางรถ
กรณีที่ผู้ขับต้องการเร่งความเร็วขณะลงทางลาดชัน ก็ยังสามารถขับขี่ได้อย่างราบรื่น ระบบควบคุมความเร็วนี้ทำงานประสานกับการเร่งเครื่องได้อย่างราบเรียบ ขณะลงทางชันที่ความเร็วต่ำกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบบังคับเบรกอัตโนมัติจะทำงาน ให้ความสะดวกสบายในกรณีของการขับขี่ในเมืองที่ต้องขึ้นลงที่จอดรถในอาคารสำนักงาน หรือในห้างสรรพสินค้าที่พื้นซีเมนต์มีความลื่น
พบกับ Subaru Forester รุ่นปรับโฉม 2023 ในบูธของ Subaru ที่งานแสดงรถยนต์ มอเตอร์เอ็กซ์โป 2022 วันที่ 1-10 ธันวามคม 2065 นี้ ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://thaihotnews.info/