รุ่นที่ 6 ของ SUV 5-7 ที่นั่ง ที่ได้รับความนิยมในไทย นี่คือ Honda CR-V รุ่นใหม่ประจำปี 2023 ยานพาหนะครอบครัวรุ่นใหม่ สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือการหลบหนีจากเมืองที่วุ่นวาย เพื่อออกเดินทางท่องเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ CR-V ใหม่ มีความซับซ้อนจากงานดีไซน์ภายนอก ภายในคล้ายกับยกงานตกแต่งมาจากรถรุ่นน้องอย่าง Civic พื้นที่ใช้สอยภายในกว้าง ยูทิลิตี้เพิ่มขึ้น สัดส่วนด้านข้างยาวขึ้นและกว้างขึ้นเล็กน้อย เสาท้ายออกแบบใหม่ ส่งผลให้รูปลักษณ์ด้านข้างลงตัวมากกว่าเดิม CR-V คือการพัฒนาทิศทางของทีมออกแบบรถยนต์จาก Honda รูปลักษณ์คล้าย HR-V ที่ดูอ้วนขึ้นในทุกสัดส่วน รูปลักษณ์ใหม่ที่แข็งแกร่ง ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการปรับปรุงไดนามิกที่เชื่อมโยงกับอากาศพลศาสตร์ ระบบไฮบริดไฟฟ้า เน้นประหยัดเชื้อเพลิงและสนับสนุนความลงตัว ด้วยชุดแต่งในรุ่นท็อป RS หรือรุ่น ES ที่มีราคาย่อมเยาลงมา ระบบขับเคลื่อนไฮบริด e:HEV กลยุทธ์การใช้พลังงานไฟฟ้าเสริมแรงของ Honda และเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลัง 190 แรงม้า อีกหนึ่งทางเลือกที่เพิ่มเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์รุ่นเก่าซึ่งปราศจากระบบอัดอากาศ
.css-1wn93q2 #forum2022-logoSponsor{text-align:center;}.css-1wn93q2 .forum2022-logoSponsor-text{font-family:”KaLaTeXa Display”;font-size:10px;position:relative;z-index:3;}.css-1wn93q2 .forum2022-logoSponsor-text span{background-color:#ffffff;padding:0 10px;position:relative;z-index:3;}.css-1wn93q2 .forum2022-logoSponsor-text::after{content:”;height:1px;width:100%;background-color:rgb(216,216,216);position:absolute;top:50%;left:0;-webkit-transform:translateY(-50%);-ms-transform:translateY(-50%);transform:translateY(-50%);z-index:2;}.css-1wn93q2 ul.forum2022-logoSponsor{padding:0;margin:0;list-style:none;display:-webkit-box;display:-webkit-flex;display:-ms-flexbox;display:flex;-webkit-flex-wrap:wrap;-ms-flex-wrap:wrap;flex-wrap:wrap;gap:15px;-webkit-box-pack:center;-webkit-justify-content:center;-ms-flex-pack:center;justify-content:center;}.css-1wn93q2 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor{height:80px;}.css-1wn93q2 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor img{height:80px;}.css-1wn93q2 .similar__widget{height:160px;}@media (max-width:991px){.css-1wn93q2 .similar__widget{height:260px;}}
All-New HONDA CR-V 2023 รุ่นและราคา
1.5 Turbo
Turbo EL 2WD (5Seats) 1,419,000 บาท
new CR-V 1.5 Turbo ES 4WD (5Seats) 1,599,000 บาท
new CR-V 1.5 Turbo EL 4WD (7Seats) 1,649,000 บาท
2.0 e:HEV Hybrid
new CR-V e:HEV ES 2WD (5Seats) 1,589,000 บาท (คันทดสอบ)
new CR-V e:HEV RS 4WD (5Seats) 1,729,000 บาท
SPONSORED
All New Honda CR-V 2023 ใหม่ รุ่นรองท็อปไฮบริด e:HEV ES 2WD (5Seats) สีใหม่ Canyon River Blue Metallic ราคา 1,589,000 บาท เป็นรถอเนกประสงค์ที่เน้นความสะดวกสบายของการใช้งานเป็นหลัก new CR-V 2023 มีความหลากหลายมากขึ้นทั้งระบบขับเคลื่อน รุ่นและราคา ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน CR-V วัสดุคุณภาพดีขึ้น พื้นผิวอุปกรณ์ตกแต่งภายในให้การสัมผัสที่ดี งานตกแต่งภายในเชื่อมโยงกับภายในของ Civic 2022 แผงหน้าปัด ตาข่ายรังผึ้งโลหะ งานตกแต่งที่คาดกลางแดชบอร์ด พื้นผิวที่สะอาด สำหรับตาข่ายรังผึ้งโลหะออกแบบให้ปกปิดช่องระบายอากาศ ให้มุมมองที่ทันสมัย แปลกตาแต่กลมกลืน เบาะที่นั่งด้านหน้ายังคงให้ความสบายเหมือนเดิม เบาะหลังที่ปรับได้ ทั้งหมด ช่วยลดความเหนื่อยล้าเมื่อขับหรือนั่งโดยสารทางไกล เทคโนโลยีดิจิทัล ระบบเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้วพร้อม Apple Carplay®และ Android Auto ™ พอร์ตชาร์จ USB Type C สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร CR-V ES e:HEV คันทดสอบ มีหน้าจอมอนิเตอร์กลาง สั่งงานด้วยการสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว ควบรวมการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย รวมถึงการชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย สำหรับผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังมีพอร์ตชาร์จสองพอร์ตให้มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
SPONSORED
CR-V 2023 มาพร้อมกับความปลอดภัยใหม่ขั้นสูง ระบบความปลอดภัย Honda Sensing® เทคโนโลยีการช่วยเหลือผู้ขับด้วยกล้องและเซนเซอร์ด้านหน้า ระบบเรดาร์ใหม่ ถุงลมนิรภัยด้านหน้ารุ่นใหม่ รวมถึง ถุงลมนิรภัยด้านหลังด้านหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โครงสร้างที่ได้รับการปรับปรุงจาก Honda Engineering ™ (ACE ™) ผ่านการทดสอบการชนด้านหน้า รวมถึงการชนแบบเฉียง
SPONSORED
new CR-V กับความซับซ้อนของงานออกแบบขอบของไฟหน้า เพื่อเชื่อมโยงกับกระจังหน้าแบบใหม่ ขยายไปทางด้านหลังโดยเน้นความยาวโดยรวมที่เพิ่มขึ้น 68 มิลลิเมตร ในขณะที่ความกว้างเพิ่มขึ้น 10 มิลลิเมตร การจัดวางเสากระจกหน้ารถแบบใหม่ เป็นกุญแจสำคัญต่อสัดส่วนของ CR-V ฐานของเสา A นี้ขยับไปทางด้านหลัง 119 มิลลิเมตร ลดความสูงลง 35 มิลลิเมตร เมื่อรวมกับกระจกมองข้างที่ติดตั้งอยู่กับประตู การปรับเปลี่ยนงานดีไซน์แบบใหม่ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยมุมมองที่เคยอับทึบให้ดีขึ้น กระจกรอบคันขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ทั้งด้านข้างและด้านหลัง กระจังหน้าใหม่สีดำ Piano Black กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน LED ไฟเลี้ยวด้านหน้า LED Sequential ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED ไฟท้าย LED หลังคาซันรูฟไฟฟ้าพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ฝากระโปรงท้ายเปิด- ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบ ปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close) และที่ขาดไม่ได้ก็คือ เสาอากาศครีบฉลาม
SPONSORED
ชุดกระจังหน้าแบบใหม่ ที่ต่อเชื่อมกับไฟหน้า LED ช่องรับอากาศติดตั้งอยู่ในแนวที่ต่ำ บริเวณด้านข้างของกันชนหน้า เป็นการปรับปรุงระบบอากาศพลศาสตร์ของซุ้มล้อหน้าให้ดีขึ้น กระจังหน้าแบบชัตเตอร์ เปิด – ปิด อัตโนมัติ เพื่อจัดการการไหลเวียนของอากาศ กระจังหน้าชัตเตอร์จะปิดโดยอัตโนมัติเมื่อจอด สปอยเลอร์หลังบนส่วนท้ายของผืนหลังคา ไฟท้ายแนวตั้ง เอกลักษณ์ของ CR-V เป็นไฟท้ายแบบ Full LED ทั้งหมด รูปทรงของไฟท้ายทำให้ CR-V เจเนอเรชันที่ 6 ดูคล้ายกับ Volvo ปลอกท่อไอเสียสแตนเลสคู่ กับทรงของกันชนหลังแบบใหม่ เป็นองค์ประกอบการออกแบบที่สำคัญของส่วนท้ายใน new CR-V สำหรับรถ new CR-V รุ่นไฮบริด ES คันทดสอบในช่วงเช้าที่จังหวัดเชียงใหม่ มีสไตล์ที่ดูดีขึ้น โดยเฉพาะกระจังหน้าแบบสปอร์ตทำจากพลาสติกสีดำเงา ปลายท่อไอเสียสแตนเลสขัดเงา กันชนด้านล่างพลาสติกสีดำด้าน ด้านล่างของสปอยเลอร์หลังเป็นสีดำด้าน พร้อมแถบพลาสติกสะท้อนแสงมัลติรีเฟคเตอร์ CR-V e:HEV ES ใช้ล้ออัลลอย 10 ก้านสีดำ Berlina Black ขนาด 18 นิ้ว ห่อรัดด้วยยาง Dunlop SP Sport Maxx ไซล์ 235/60R18
CR-V ใหม่ในไทย มีให้เลือก 6 สี รวมถึงสีใหม่ Canyon River Blue Metallic มีเฉพาะใน CR-V มีจำหน่ายเป็นครั้งแรก Meteorite Grey Metallic นอกจากนี้ยังมีสี Platinum White Pearl, Lunar Silver Metallic, Crystal Black Pearl และ Radiant Red Metallic
ภายในห้องโดยสารของ CR-V ปี 2023 ทันสมัยและกว้างกว่าเดิมเล็กน้อย ทิศทางงานดีไซน์ภายใน อย่างที่บอกว่าเชื่อมโยงกับรถรุ่นขายดีของ Honda อย่าง Civic ใหม่ การประกอบภายในประณีตใช้ได้ วัสดุพวกพลาสติกดีขึ้น ให้สัมผัสที่หรูหรา ห้องโดยสารเงียบที่ย่านความเร็วต่ำ แต่พอความเร็วทะยานขึ้นไปถึง 100 กิโลเมตร เริ่มมีเสียงยางเข้ามาให้ได้ยิน ในช่วงความเร็วต่ำเมื่อมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานในช่วงสั้นๆ ห้องโดยสารของ CR-V e:HEV ถือว่าเงียบใช้ได้เลยทีเดียว แต่พอวิ่งเร็วขึ้นไปจนถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงลมและเสียงยางจะได้ยินอย่างชัดเจน มาตรวัดดิจิทัลอ่านค่าได้ง่าย หน้าจอมอนิเตอร์กลาง สั่งงานด้วยการสัมผัสออกแบบเข้ากับแดชบอร์ดได้อย่างลงตัว จุดที่ทำออกมาได้ดีดีจุดก็คือ แผงควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร ใช้ปุ่มสีเงินสามตำแหน่งควบคุมทิศทางและอุณหภูมิตลอดจนความแรงของพัดลมแอร์ พร้อมด้วยระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster
Honda แจ้งว่า CR-V ใหม่ มีพื้นที่วางขาของเบาะหลังเพิ่มขึ้น 0.6 นิ้ว พนักพิงหลังปรับเอนได้ 8 ระดับ (จากเดิม 2 ระดับ) และปรับเอนได้สูงสุด 10.5 องศา เพื่อการนั่งโดยสารที่ผ่อนคลาย มีจุดยึด LATCH ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กด้านหน้าและด้านหลัง CR-V วิศวกรของ Honda พยายามลดเสียงรบกวนของยาวที่บดลงไปบนผิวถนน ด้วยแผ่นซับบังโคลนหน้าและหลัง แผ่นดูดซับเสียงแบบใหม่ แผ่นปิดใต้พื้นด้านหน้า ฉนวนดูดซับเสียงแบบใหม่ ครอบคลุมพื้นด้วยโฟมยูรีเทนชนิดสเปรย์ที่ช่วยปรับปรุงฉนวนกันเสียง ลดช่องว่างที่ฐานของเสา
วัสดุซับเสียงที่ไฟร์วอลล์ด้านด้านนอกและด้านใน ช่วยลดเสียงเครื่องยนต์ในรุ่นไฮบริด มีฉนวนเพิ่มเติมที่ด้านล่างของฝากระโปรงหน้าและในบังโคลน ใต้แผงหน้าปัด รอบๆ ช่องเปิดท้ายรถ เพื่อลดเสียงลม CR-V มีกระจกบานหน้าที่หนาขึ้น เพิ่มกระจกบังลมแบบกันเสียง เสียงรบกวนภายในลดลงด้วย Active Noise Control (ANC) ขยายพื้นที่ครอบคลุมภายในห้องโดยสารด้วยลำโพงเพิ่มเติมที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ ANC ระดับเสียงและความถี่ที่กว้างขึ้น ANC ช่วยลดเสียงรบกวนที่ดังรบกวนในห้องโดยสาร Active Sound Control (ASC) ช่วยเพิ่มเสียงของเครื่องยนต์ในโหมด Sport ทัศนวิสัยถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นจากเสา A ที่ปรับตำแหน่งใหม่ กระจกบังลมบานหน้าขนาดใหญ่ กระจกมองข้างที่วางตำแหน่งให้ห่างจากเสากระจกบังลม ทัศนวิสัยที่ปรับปรุงเพิ่มเติมคือพื้นผิวบนแผงหน้าปัดของ CR-V ซึ่งออกแบบให้มีเส้นตัดน้อยที่สุด ลดการสะท้อนของกระจกหน้ารถ กล้องมองหลังความละเอียดสูงแบบใหม่พร้อมมุมมองที่ชัดเจนช่วยให้ถอยรถได้ง่ายขึ้น
ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุที่เน้นจุดสัมผัส สวิตช์ หัวเกียร์และปุ่มควบคุม รวมถึงการคลิกของปุ่ม ก้าน และสวิตช์ ชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ เช่น ปุ่มควบคุมอุณหภูมิ ก้าน ไฟเลี้ยวและก้านปัดน้ำฝน ปรับรูปทรงใหม่เพื่อให้มองเห็นหลังพวงมาลัยได้ง่ายขึ้น แผงหน้าปัดและแผงข้างประตูออกแบบให้มีลายนูนรังผึ้ง ไฟอ่านหนังสือ LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั่วห้องโดยสาร ช่องตาข่ายโลหะแบบรังผึ้ง พาดผ่านแผงหน้าปัด คล้ายกับงานตกแต่งภายในของ Civic ปี 2022 ขอบรังผึ้งทำหน้าที่สร้างเส้นแบ่งที่มองเห็นได้ชัดเจนระหว่างเครื่องเสียง หน้าจอแสดงข้อมูล และระบบควบคุมอุณหภูมิ
CR-V มาพร้อมเบาะนั่ง Body Stabilizing Seats คู่หน้าแบบใหม่ โอบรับสรีระ ลดความเมื่อยล้า โดยเฉพาะการขับทางไกล ออกแบบที่นั่งด้านหน้าใหม่ ใช้โครงสร้างภายในหลายส่วน เพื่อให้การรองรับที่ดีขึ้นทั่วทั้งตัวเบาะ แผ่นเรซินที่รองรับกระดูกเชิงกราน ไปจนถึงกระดูกสันหลังส่วนเอว เพื่อให้ความรู้สึกในการนั่งมั่นคง การเอียงเชิงกรานไปข้างหน้าและด้านข้างจะลดลงตามส่วนโค้งใหม่ของก้นเบาะ โครงเบาะด้านใน ที่ด้านล่างของเบาะนั่งออกแบบให้พยุงสะโพก เพื่อลดการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนท่าทางระหว่างแรง G มุมพวงมาลัยที่ลดลงจาก 28 องศาเป็น 25 องศา ทำให้ CR-V มีตำแหน่งการขับขี่ที่สปอร์ตขึ้นเหมือนรถซีดาน
คอนโซลกลางแบบใหม่ของ CR-V มีขนาดใหญ่ที่สุดในรถยนต์คลาสเดียวกัน มีปริมาตร 9 ลิตร ช่องเก็บของด้านหน้าคันเกียร์มีขนาดใหญ่พอที่จะวางสมาร์ทโฟน 2 เครื่อง มีถาดขนาดเล็กระหว่างที่วางแก้วและที่เท้าแขนตรงกลาง วางแก้วทั้งหมดแปดช่อง ทั้งที่ด้านหน้าและด้านหลัง CR-V ปี พื้นที่เก็บสัมภาระส่วนท้าย เป็นหนึ่งในห้องเก็บสัมภาระที่ใหญ่ที่สุดในระดับเดียวกันด้วยขนาด 36.3 ลบ.ฟุต พื้นที่ว่างด้านหลังเบาะหลังในรุ่นไฮบริด (+3.1 ลบ.ฟุต) พื้นที่เก็บสัมภาระส่วนท้าย สามารถปรับเบาะหลังพับราบ ทำให้พื้นที่บรรทุกสัมภาระเพิ่มขึ้นเป็น 39.3 ลบ.ฟุต เบาะหลังแบบแยกพับ 60/40 พื้นที่เก็บสัมภาระขยายเป็น 76.5 ลูกบาศก์ฟุต ฝาท้ายไฟฟ้าทำงานเร็วและเงียบ ด้วยกลไกเฟืองแบบใหม่ ตัวเรือนเรซินสำหรับโช้คฝาท้ายไฟฟ้า
เจเนอเรชันที่ 4 ของระบบไฮบริด 2 มอเตอร์ ในรุ่น ES e:HEV เพิ่มความสามารถในการขับเคลื่อนด้วยพลังงานผสม เครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรง ระบบไฮบริด 2 มอเตอร์ แรงบิด 335 นิวตันเมตร มีกำลังเพิ่มขึ้น +6.5% จากรุ่นก่อน เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง ฝาสูบ Atkinson แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ระบบฉีดเชื้อเพลิงตรง มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ติดตั้งเคียงข้างกันแทนที่จะอยู่ในแนวเดียวกันกับเพลาข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์ การจัดเรียงใหม่ยังรวมถึงอัตราส่วนการล็อกความเร็วสูงและต่ำใหม่สำหรับเครื่องยนต์ขับตรงบนทางหลวงและในเมือง ช่วยเพิ่มการตอบสนองด้านความรู้สึกในการขับแบบสปอร์ต ถ้าเทียบฟีลลิ่งของการเข้าโค้ง รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า ES e:HEV เป็นรองรถคู่แข่งขับสี่อย่าง Forester รุ่นใหม่ แต่ก็ขับได้สูสีกับ CX-5 ของ Mazda ในด้านการยึดเกาะและถ่ายเทน้ำหนักในโค้ง Honda เคลมอัตราสิ้นเปลืองของรุ่น Hybrid e:HEV เอาไว้ที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อลองขับทดสอบบนเส้นทางภูเขาขึ้นลงเนินในแถบ เชียงใหม่ – พร้าว ระยะทางรวม 77 กิโลเมตร ทำอัตราสิ้นเปลืองในย่านความเร็ว 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 14.3 กิโลเมตรต่อลิตร จุดที่ทำได้ดีก็คือ ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าอัตราทดแปรผันโดยเฉพาะการขับบนเส้นทางภูเขาวกไปวนมา พวงมาลัยไฟฟ้ามีน้ำหนักแปรผันไปตามสปีดความเร็ว เมื่อวิ่งในย่านความเร็วต่ำให้ความรู้สึกเบาสบายข้อมือไม่ต้องออกแรงหมุนในโค้งมุมแคบ การผ่องถ่ายน้ำหนักช่วยสร้างความมั่นใจได้ดีเมื่อทะยานลงเนินแล้วเจอกับโค้งสลับซ้าย-ขวาต่อเนื่อง ช่วงล่างดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว ออกแนวหนึบนุ่มและรักษาอาการโคลงในโค้งได้ดีขึ้น ทำให้ควบคุมได้ง่ายบนถนนที่มุ่งหน้าขึ้นไปยังสะเมิง
new CRV ES e:HEV สร้างสภาพแวดล้อมการขับที่ผ่อนคลาย ที่ความเร็วบนทางหลวงชนบทที่อุดมไปด้วยโค้งขึ้นลงเขา มอเตอร์เสริมแรง ช่วยให้รถมีความเร็วสูงสุดอย่างต่อเนื่องขณะที่เจอเข้ากับทางตรงและผมลองกดคันเร่งลงจนสุด นอกจากจะปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารเชื้อเพลิงแล้ว มอเตอร์และเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เอาต์พุตรวมของทั้งสองระบบคือ 204 แรงม้า มอเตอร์เสริมแรง หมุนที่ 14,500 รอบต่อนาที ให้กำลัง 181 แรงม้า มอเตอร์เจเนอเรเตอร์ (มอเตอร์ปั่นไฟ) หมุนที่ 17,000 รอบต่อนาที ให้กำลัง 161 แรงม้า สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ระบบ Intelligent Power Unit (IPU) มีชุดแบตเตอรี่และฮาร์ดแวร์ควบคุมขนาดเล็กพร้อมน้ำหนักที่เบาลง ขนาดที่เล็กลงของ IPU ทำให้พัดลมระบายความร้อนสามารถประกอบเข้ากับตัวเครื่องได้อย่างสมบูรณ์ แทนที่จะติดตั้งภายนอกและลดเสียงรบกวนได้ 13% เมื่อคลานที่ย่านความเร็วต่ำมันจะวิ่งอย่างเงียบกริบเพราะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยขับเคลื่อนในช่วงที่มีการจราจรหนาแน่น
Power Control Unit (PCU) ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงมีเอาต์พุตและกระแสสูงสุดเพิ่มขึ้น 8% สายเคเบิล DC ที่ลดขนาดลง พร้อมลวดตีเกลียวอะลูมิเนียมที่มีน้ำหนักน้อยลง 46% ระบบไฮบริดควบรวม Linear Shift Control สร้างความรู้สึกของรอบเครื่องยนต์ที่เชื่อมโยงกับความเร็วของรถ การเปลี่ยนเกียร์คล้ายระบบขับเคลื่อนแบบเดิม คันเร่งเปิดกว้างเพื่อประสบการณ์การขับที่เร้าใจ เกียร์ “B” เบรกเครื่องยนต์ได้แรงขึ้นถึง 0.09G ทำให้สามารถขับเคลื่อน CR-V ในรูปแบบ “one Paddle” เหมือนกับระบบ regenerative braking ในรถยนต์ไฟฟ้า ระบบไฮบริด e:HEV เพิ่มความเร็วสูงสุดอย่างต่อเนื่อง จาก 138 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เครื่องยนต์ Atkinson-Cycle ความจุ 2.0 ลิตร ระบบจ่ายเชื้อเพลิงไดเรคอินเจค ระบบไฮบริดสองมอเตอร์แบบใหม่ ใช้เครื่องยนต์ Atkinson-cycle 2.0 ลิตร DOHC 4 สูบที่ปรับปรุงใหม่โดยมีกำลังที่เพิ่มขึ้น การปรับแต่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพของการเร่งความเร็วและการขับด้วยความเร็วคงที่ เนื่องจากเครื่องยนต์เบนซินสามารถแยกออกจากระบบส่งกำลังไฮบริดได้ จึงทำงานเท่าที่จำเป็น ขึ้นอยู่กับสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ และตัวแปรอื่นๆ เช่นสภาพของเส้นทางและการคันเร่งของคนขับ
กำลังเครื่องยนต์สูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 145 แรงม้า (SAE สุทธิที่ 6,100 รอบต่อนาที) แรงบิด 187 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที กำลังเครื่องยนต์เพิ่ม 2 แรงม้า แรงบิดเพิ่มอีก 9 นิวตันเมตร เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Atkinson-cycle เป็นขุมกำลัง Honda เครื่องแรกที่ผสมผสานระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรง พร้อมหัวหัวฉีดไฟฟ้าแรงดันสูง การออกแบบให้ระบบฉ่ายเชื้อเพลิง ทำงานด้วยการฉีดแบบหลายขั้นตอน เพื่อให้ได้ส่วนผสมที่เป็นเนื้อเดียวกันระหว่างอากาศกับเชื้อเพลิง เพื่อให้การเผาไหม้ที่สะอาดขึ้น ปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ 41% เพื่อควบคุมอุณหภูมิไอเสีย ฝาสูบใช้เสื้อสูบแบบสองชิ้น พอร์ตระบายความร้อนแบบใหม่ และกลไกของชุด วาล์ว EGR ที่มีการขยายความจุ ทั้งหมดทั้งปวงทำให้หัวใจของระบบส่งกำลัง e:HEV มีศักยภาพมากพอที่จะล้วงเอาเงิน 1.5 ล้านบาทออกจากกระเป๋าของลูกค้าได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
อุปกรณ์สำคัญที่มีผลต่อการทำงานของวงจร Atkinson คือฝาสูบดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ป DOHC น้ำหนักเบา ระบบควบคุมจังหวะแปรผัน (VTC) บนเพลาลูกเบี้ยวไอดี เพื่อปรับเฟสลูกเบี้ยวไอดีอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการปล่อยมลพิษ ตัวเร่งปฏิกิริยาแบบแอ็กทีฟอุณหภูมิต่ำ ลดการปล่อย NOx 24% ลดการปล่อยไฮโดรคาร์บอน 22% เครื่องยนต์มีเพลาข้อเหวี่ยงที่แข็งแกร่งขึ้น ตัวถ่วงน้ำหนักลดแรงสั่นสะเทือน ฝาครอบเครื่องยนต์ยูรีเทน ลดเสียงรบกวนจากการทำงานของระบบไดเรคอินเจคชั่น ฉนวนแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเซลล์ไฟเบอร์ทีต้า เป็นวัสดุไฟเบอร์โฟมน้ำหนักเบา ทนทานต่อความร้อนและแรงสั่นสะเทือนสูง ถูกนำมาใช้ที่ด้านหลังของเครื่องยนต์
เกียร์ไหลขึ้นลงอย่างเนียน เมื่อลองชิฟเกียร์เองผ่านแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ในขณะที่กำลังห้อลงมาจากสะเมิง ระบบส่งกำลังแบบแปรผันต่อเนื่อง E-CVT (Electrical Continuously Variable Transmission) ตอบสนองได้ดีเมื่อผมลดตำแหน่งเกียร์พร้อมๆ กับการแตะเบรกเพื่อลดความเร็วบนเส้นทางลงเนิน E-CVT ของ new CR-C ES e:HEV ออกแบบสายพานโลหะที่ทำงานได้เงียบกว่าเดิม เคสเรือนเกียร์หนาขึ้น เพื่อช่วยลดแรงสั่นสะเทือน เกียร์อัตโนมัติ E-CVT เพิ่มความสามารถในด้านการทดกำลังลงไปยังล้อขับเคลื่อนคู่หน้า การปรับการควบคุม Torque On Demand ให้เหมาะสม ระบบจะลดเกียร์ก่อนเวลาระหว่างการเบรก และการปรับแต่งที่ดีขึ้นสำหรับการเปลี่ยนเกียร์ของ Honda G Design เมื่อเหยียบคันเร่งเต็มที่ CR-V มีโปรแกรม Step Shift ที่จำลองการเปลี่ยนเกียร์โดยแทบจะไม่ต้องไปวุ่นวายกับ Paddle Shift
CR-V ใช้ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้า พวงมาลัยเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์แบบปีกนกคู่ (EPS) ซึ่งมีลูกปืนคอพวงมาลัยปรับแต่งใหม่ เพื่อลดแรงเสียดทานของพวงมาลัย ให้ความรู้สึกในการบังคับเลี้ยวที่เป็นธรรมชาติ พวงมาลัยไฟฟ้า EPS ปรับการตอบสนองด้านความเสถียรของเส้นตรง ไม่ต้องขยับพวงมาลัยไปมาเพื่อรักษาช่องทาง ชุดควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบใหม่ ช่วยให้บังคับเลี้ยวได้แม่นยำ ในขณะที่อัตราทดแรคแบบแปรผัน เพิ่มความรู้สึกในการบังคับเลี้ยวที่ความเร็วต่ำได้ดีขึ้นและให้เสถียรภาพที่ความเร็วสูง ด้วยการเปลี่ยนอัตราทดแรคที่ความเร็วต่ำและความเร็วสูงอย่างสมดุล ซับเฟรมอะลูมิเนียมที่แข็งขึ้น วางตำแหน่งแร็คพวงมาลัยแบบอัตราทดแปรผันไว้ใต้เพลาขับหน้าแทนที่จะวางไว้ด้านบนเหมือนเมื่อก่อน การย้ายแรคให้ต่ำลง 32 มิลลิเมตร พร้อมกับแบริ่งคอลัมน์และกลไกภายในแรคที่ออกแบบให้มีแรงเสียดทานต่ำ ปรับปรุงความแข็งแกร่งของระบบบังคับเลี้ยว ส่งผลกับความรู้สึกหรือฟีลลิ่งในการบังคับเลี้ยวที่มาพร้อมความคมชัดแม่นยำ
ความสามารถในการควบคุมเบรกของ CR-V ES e:HEV ได้รับการปรับปรุงโดยการปรับซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมสำหรับการชะลอความเร็วที่สัมพันธ์กับแรง ดอกยาง และจังหวะการเหยียบเบรก CR-V ทุกคันติดตั้งดิสก์เบรกป้องกันล้อล็อกทั้ง 4 ล้อ ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบช่วยเบรก ระบบเบรกของ CR-V ให้ความรู้สึกที่สบายและนุ่มนวลที่ความเร็วต่ำ คาดเดาได้ง่ายและใช้งานได้ดีบนทางหลวงไฮเวย์ หรือทางลงเขาแถบภาคเหนือ ขับสนุกบนถนนที่คดเคี้ยว และให้ความมั่นใจในการหยุดที่มีประสิทธิภาพสูง ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จานเบรกหน้าแบบมีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ CR-V ใช้คาลิเปอร์ด้านหน้าแบบแรงเสียดทานต่ำ พร้อมสปริงแบบม้วนกลับเพื่อลดแรงต้านทานของเบรก ทำให้ประหยัดน้ำมันในขณะที่ยังคงประสิทธิภาพการเบรกที่ดี
สรุป
new CR-V e;HEV ทั้ง RS และ ES เป็นรถที่น่าใช้ ถ้าขับ HR-V พอเห็นของที่สดใหม่กว่าและคันใหญ่มากกว่าก็ยิ่งอยากได้อะไรที่ใหญ่โตกว่าเดิม ระบบไฮบริดสองมอเตอร์ ช่วยประหยัดน้ำมัน ไม่มากเท่า Civic e:HEV แต่ก็ดีกว่า CR-V รุ่นที่แล้ว อัตราสิ้นเปลืองบนทางภูเขาแถบสะเมิง อยู่ที่ 14.3 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ ขับทางราบอาจทำได้ดีกว่านั้นถ้ารู้จักใช้คันเร่ง ไดนามิกขณะใช้ความเร็วก็อยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งการทรงตัวในย่านความเร็วสูงและการถ่ายเทน้ำหนักในโค้ง ช่วงล่างและพวงมาลัยไฟฟ้าก็ปรับปรุงมาดีกว่าเดิม เบาะนั่งสบาย ตัวเบาะไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากรถรุ่นที่แล้วมากนัก การปรับด้วยไฟฟ้าครอบคลุมสรีระ ฟองน้ำในตัวเบาะ กับการออกแบบโครงสร้าง ทำให้นั่งยาวๆ แล้วไม่เมื่อย เบาะหลังปรับได้หลากหลาย พับราบก็เพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระ เรื่องหน้าตาก็แล้วแต่ความชอบ มองดูแล้วทันสมัยไม่ขี้เหร่ โดยเฉพาะกระจังและไฟหน้า กับเสาท้ายและไฟท้ายแบบใหม่ที่ดูดีขึ้นเยอะ เรื่องที่ไม่ชอบก็ใช่ว่าจะไม่มี การเก็บเสียงที่ Honda บอกว่า ได้เพิ่มวัสดุซับเสียงทั่วทั้งคัน พอความเร็วทะยานผ่าน 100 กิโลเมตร เสียงยางและเสียงลมที่ซุ้มล้อก็ดังเข้ามาให้ได้ยินทันที ยิ่งขับเร็ว ก็จะได้ยินอย่างชัดเจน ยังงงว่า ขนาดมีวัสดุซับเสียงเยอะมากขนาดนั้น แต่ทำไมยังวิ่งเร็วแล้วดัง สำหรับ Honda Lane Watch ถ้าเปิดกูเกิลนำทางแล้วยกไฟเลี้ยวซ้าย เนวิเกเตอร์นำทางจะหายไปแล้วแทนที่ด้วยภาพมุมซ้าย ทำให้การใช้งานมีความยากลำบากอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะการขับในตัวเมืองเชียงใหม่ที่มีทางวันเวย์อยู่หลายเส้น อันที่จริง Honda Lane Watch ถ้ามีภาพแสดงทั้งซ้ายและขวาก็จะดีกว่านี้ หรือถ้าไม่มีเลยก็ยิ่งดี เพราะใช้สายตามองด้านข้างสลับกับการมองที่กระจกมองข้างก่อนเปลี่ยนช่องทาง ดีกว่าพึ่งกล้องมองภาพที่ใช้งานได้แค่ด้านซ้ายเท่านั้นเอง การเลือก CR-V e:HEV ES 2WD (5Seats) ราคา 1,589,000 บาท ประหยัดเงินไป 140,000 เมื่อเทียบกับราคา 1,729,000 บาท ของรุ่นท็อปอย่าง CR-V e:HEV RS 4WD แต่ถ้าต้องการความสุด รุ่น RS หล่อและครบกว่าเยอะครับ.
All-New HONDA CR-V 2023 รุ่นและราคา
1.5 Turbo
Turbo EL 2WD (5Seats) 1,419,000 บาท
new CR-V 1.5 Turbo ES 4WD (5Seats) 1,599,000 บาท
new CR-V 1.5 Turbo EL 4WD (7Seats) 1,649,000 บาท
2.0 e:HEV Hybrid
new CR-V e:HEV ES 2WD (5Seats) 1,589,000 บาท (คันทดสอบ)
new CR-V e:HEV RS 4WD (5Seats) 1,729,000 บาท
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat)
ไฟตกแต่งห้องโดยสารตอนกลางคืน (Ambient Light) ที่ถาดคอนโซลกลาง แผงประตูหน้าและหลัง และที่วางแก้ว
ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 (เฉพาะรุ่น EL 4WD)
ไฟอ่านหนังสือด้านหลัง LED แบบสัมผัส
เบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง
เบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Sliding) เลื่อนและแยกพับแบบ 60:40
รุ่นเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน ปรับพับลงแนวราบได้เรียบ (Utility Mode)
เพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย ปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง (Long Mode) เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น E ขนาด 7 นิ้ว)
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง (USB Type-C 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 1 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง)
Honda new CR-V มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time (TM) AWD with E-DPS)
Full Hybrid e:HEV
ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 2,000 รอบต่อนาที โดย Honda เคลมอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงถึง 20.8 กม./ลิตร (รุ่น e:HEV ES) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 113 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้ 3 โหมด ได้แก่
โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
ระบบความปลอดภัย Honda SENSING
กล้องด้านหน้าและเรดาร์ ตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน มีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ไฟหน้า LED พร้อมระบบอัตโนมัติ Adaptive Driving Beam: ADB (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) เพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
กล้องมองภาพรอบทิศทาง Multi-view Camera System: MVCS (ยกเว้นรุ่น E)
เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย Deceleration Paddle Selectors (รุ่น e:HEV ES และ
e:HEV RS 4WD)
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
เครื่องยนต์
แบบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟต์ (DOHC) 4 สูบ 16 วาล์ว
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หัวฉีดมัลติพอยต์ PGM-FI
ความจุ 1,993
เส้นผ่านศูนย์กลางกระบอกสูบ x ช่วงชัก 81.0 มิลลิเมตร x 96.7 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด 13.9 : 1
กำลังสูงสุด 109 กิโลวัตต์ 148 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 183 นิวตัน-เมตร (18.7 กก.ม.) ที่ 4,500 รอบต่อนาที
ระบบควบคุมการเปิด-ปิด ลิ้นปีกผีเสื้อ แบบอิเล็กทรอนิกส์ (DBW)
ระบบส่งกำลัง
ระบบเกียร์ E-CVT (Electrical Continuously Variable Transmission)
อัตราทดเกียร์ 2.230 (มอเตอร์ไฟฟ้า) 0.707 (เครื่องยนต์เกียร์สูง) 1.409 (เครื่องยนต์เกียร์ต่ำ)
อัตราทดเกียร์ เกียร์ถอยหลัง 2.230 (มอเตอร์ไฟฟ้า) 0.707 (เครื่องยนต์เกียร์สูง) 1.409 (เครื่องยนต์เกียร์ต่ำ)
อัตราทดเกียร์ เฟืองท้าย 9.899 (มอเตอร์ไฟฟ้า) 3.140 (เครื่องยนต์เกียร์สูง) 6.252 (เครื่องยนต์เกียร์ต่ำ)
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อน 2 ล้อ
มอเตอร์ไฟฟ้า
กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 8,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร (34.2 กก.-ม.) ที่ 0 – 2,000 รอบต่อนาที
แบตเตอรี่
ชนิด-ลิเธียม-ไอออน
เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า
กำลังสูงสุด 207 แรงม้า
ระบบพวงมาลัย
แบบ ดูอัลพิเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (DP-EPS)
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า พร้อมอัตราทดเกียร์แบบแปรผัน (VGR)
พวงมาลัยหมุนสุด 2.4 รอบ
รัศมีวงเลี้ยว 5.5 เมตร
ระบบเบรก
หน้า ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
หลัง ดิสก์เบรก
ระบบกันสะเทือน
หน้า แม็คเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง มัลติลิงค์ อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง
สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD และ e:HEV ES
สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD
สีขาวแพลทินัม (มุก)
สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
สีดำคริสตัล (มุก)
ข้อเสนอพิเศษ จองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 – 31 พฤษภาคม 2566 แถมประกันภัย 1 ปี รับดอกเบี้ย 2.29% โปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ Honda Ultimate Care ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ เพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร
ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)
All New Honda CR-V 2023 e:HEV แคมเปญพิเศษ ด้านการบริการหลังการขาย ได้แก่
ค่าแรงในการเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษาเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี รับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง.
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://thaihotnews.info/
