
เป็นเวลาเพียงแค่สองปี นับตั้งแต่แผนกรถยนต์สมรรถนะสูงของ BMW เปิดตัว X4 M Competition โดยเป็นรถคู่แข่งของ Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio, Porsche Macan GTS และ Mercedes-AMG GLC63 Coupe การเปลี่ยนแปลงในคูเป้เอสยูวีสมรรถนะสูง ที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น การมุ่งเน้นไปที่สมรรถนะของ M Car ยังคงเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดความสนใจของเศรษฐีทั่วโลก อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ของ X4 M Competition รุ่นใหม่ เร็วกว่ารุ่นก่อน 0.3 วินาที ที่ 3.9 วินาที ซึ่งเท่ากับเวลาของ X6 M Competition ที่ใหญ่กว่า ซึ่งเป็น BMW M Coupe SUV ที่เร่งความเร็วได้เร็วที่สุดจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม มีความพยายามในการสร้างความแตกต่างระหว่าง X4 M Competition ที่ปรับโฉมใหม่ จาก X4 รุ่นมาตรฐาน ในแง่ของรูปลักษณ์ภายนอกกับตัวเลขสมรรถนะ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันของระบบดิจิทัล BMW OS7 ที่ใช้งานง่ายและดูดีกว่าจอภาพยาวๆ ของ BMW OS8 ภายในห้องโดยสารได้รับการปรับปรุงให้มีความสบายควบคู่ไปกับความหรูหราในสไตล์และเอกลักษณ์ของ BMW M โดยมีเป้าหมายที่จะวางตำแหน่งของ X4 M Competitio ให้อยู่ในระดับเดียวกับ M3 G80 และ M4 G82 รุ่นล่าสุด

SPONSORED


แวบแรกที่คุณมองเห็น นี่คือ BMW X4 M Competition LCI ที่มีการปรับโฉมใหม่ มันใช้เครื่องยนต์ของ M3 G80 และ M4 G82 ซึ่งหมายถึงการมีม้าตุนอยู่ใต้ฝากระโปรงมากถึง 503 ตัว นั่นมากเกินพอที่จะทำให้รถรุ่นนี้เป็น X โมเดลที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนโลกใบนี้ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.9 วินาที นั่นโคตรเร็วเมื่อคุณต้องนั่งกุมพวงมาลัยขณะที่อยู่ในรถสปอร์ตตัวถังคูเป้เอสยูวี นอกจากนี้ ระบบ 4WD M xDrive ที่ซับซ้อนของ M3 M4 และ M5 ก็ยังถูกนำมาใส่ใน X4 M แม้ว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนการขับเคลื่อนไปที่ล้อหลังได้เต็ม 100% แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องถ่ายแรงบิดทั้งหมดไปที่ล้อหลัง 100% เหมือน Audi RS3 แต่ M xDrive ใน X4M เปิดโอกาสให้เจ้าของที่มีฝีมือได้ฝึกปรือกับการดริฟต์ง่ายๆ เครื่องยนต์มีเพลาข้อเหวี่ยงหล่อขึ้นรูปที่เบาขึ้นตามแบบฉบับของ M3/M4 มันแรงขึ้น แรงบิดจึงเพิ่มขึ้นเป็น 650 นิวตันเมตร นั่นคือเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ เพียงพอที่คุณจะรับรู้ได้หากเคยเป็นเจ้าของ X4 M รุ่นก่อนปรับโฉม เช่นเดียวกับรถยนต์ M สมัยใหม่ทุกรุ่น BMW X4 M Competition ออกแบบโหมดขับเคลื่อนที่ช่วยให้คนขับปรับแต่งค่าการตอบสนองของเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ พวงมาลัยและช่วงล่างเพื่อเปิดประสบการณ์การขับได้เกือบรอบด้าน การตอบสนองของเครื่องยนต์ น้ำหนักพวงมาลัย ความหนืดของช่วงล่าง (โช้คอัพไฟฟ้า) และท่อไอเสีย M นั้นสามารถปรับค่าการทำงานได้ทั้งหมด ราวกับว่า BMW สร้าง X4 M Competition เพื่อปล่อยให้เจ้าของรถปรับค่าการตอบสนองได้ตามใจชอบ



SPONSORED


รถทดสอบ BMW X4 M Competition สีเทา Brooklyn Grey metallic ราคา 8,599,000 บาท เข้าสู่ช่วงที่สองของรุ่น ด้วยรูปลักษณ์โฉม LCI 2022-2023 ที่ดุเดือดเลือดพล่านมากกว่า X4 รุ่นมาตรฐาน แม้แต่ X4 M40i ตัวแรงก็ยังไม่โหดเท่า X4 M Competition LCI ตกแต่งด้านหน้าด้วยกระจังหน้าพลาสติกสีดำเงารูปไตคู่ขนาดใหญ่ พร้อมด้วยกรอบแบบชิ้นเดียว ตราสัญลักษณ์ X4M ขนาดเล็กแปะอยู่บนกระจังด้านขวา เมื่อหันหน้าเข้าหารถ ไฟหน้า Adaptive LED พร้อมไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Light ระบบไฟอัตโนมัติ Adaptive LED พร้อมซอฟต์แวร์ที่ปรับปรุงใหม่ ทำให้ไฟอัตโนมัติใน X4 M Competition LCI ทำงานได้เร็วขึ้น ระบบเบี่ยงเบนลำแสง จะทำการแบ่งช่องไฟเพื่อไม่ทำให้แสงไฟไปรบกวนสายตาของผู้ขับคันอื่นทั้งข้างหน้าและที่แล่นสวนมา Adaptive LED สามารถยกไฟสูงคาเอาไว้ในขณะที่แล่นเข้าไปใกล้กับรถคันข้างหน้า หรือรถที่กำลังแล่นสวนทางมา การเบี่ยงเบนลำแสงไปยังไหล่ทาง เพื่อเปิดทัศนวิสัยให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน Adaptive LED ทำงานเร็วและมีกำลังในการส่องสว่างไกลประมาณ 600 เมตร ไฟหน้าถูกรีดให้บางลง 0.4 นิ้ว BMW M GmbH ออกแบบกันชนหน้า M เฉพาะของ X4 M ให้โดดเด่นยิ่งขึ้นสำหรับตัว LCI ปี 2022 ช่องเปิดรับอากาศขนาดใหญ่ในกันชนหน้า ช่วยส่งลมเย็นส่งไปยังเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง รวมถึงยังนำกระแสลมไประบายความร้อนให้กับระบบเบรกได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่รายละเอียดการออกแบบ ลักษณะเฉพาะของรถ M ที่ด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์โดยไม่มีชิ้นส่วนที่รกหูรกตาหรือไร้ประโยชน์
SPONSORED



SPONSORED







กระจังหน้าพลาสติกสีดำเงารูปไต BMW M ขยายไปยังกันชนหน้าที่ออกแบบใหม่หมด ช่องรับอากาศตรงกลางและบริเวณด้านล่างกว้างขึ้น ช่องดักอากาศด้านข้างแบบใหม่ จัดเรียงในแนวตั้งและมีขนาดความยาวมากขึ้น ช่องดักอากาศด้านข้าง ทำมุมลงไปที่ขอบสปอยเลอร์ในแนวโค้ง เข้าหาศูนย์กลางของรถ ช่องดักอากาศดังกล่าว ออกแบบให้เชื่อมโยงกับรูปทรงหกเหลี่ยมของช่องดักอากาศส่วนกลาง ล้อมกรอบด้วยพลาสติกสีดำเงา แถบสีดำที่มี iCam แสดงการแยกส่วนของกระจังหน้าออกจากส่วนหน้าของรถอย่างชัดเจน ช่องระบายอากาศที่บังโคลนหน้าและกระจกมองข้าง M ถูกปรับปรุงรูปทรงให้ถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์ ช่วยลดแรงต้านของอากาศ ปล่อยให้กระแสลมไหลผ่านอย่างราบรื่น ฝาครอบกระจกมองข้างและช่องลม M มีลักษณะเฉพาะตัว รวมอยู่ในช่องระบายอากาศ ตกแต่งด้วยสีดำเงา X4 M Competition มีสปอยเลอร์หลังคาสีเดียวกับตัวรถ รูปทรงเชื่อมโยงกับ M Sports Activity Vehicle สปอยเลอร์หลังสีดำเงาติดตั้งอยู่ที่ขอบของฝากระโปรงหลัง กระจกมองข้าง M Carbon เป็นอุปกรณ์เสริมที่ต้องควักเงินเพิ่ม X4 M Competition LCI ยังมีสปอยเลอร์หลัง CFRP ขายเป็นอุปกรณ์เสริมอีกต่างหาก ส่วนดีไซน์ของไฟท้าย LED ทรงเรียวยาวที่สวยงามน้องๆ X6 M ขอบพลาสติกสีดำเงา กับท่อระบายท้าย ฝั่งละสองท่อสีดำเงา ช่วยให้ส่วนท้ายของรถดูโดดเด่น ส่วนล่างของกันชนหลังเป็นแบบเฉพาะของ M ตกแต่งด้วยพลาสติกสีดำเงา กันชนหลังใหม่ของ BMW X4 M มีดีไซน์ส่วนแทรกแบบออฟเซตที่กว้างขึ้น ในรูปของทั่งตีเหล็ก เช่นเดียวกับแผงระบายอากาศแนวตั้งด้านข้างซึ่งรองรับแผ่นสะท้อนแสงแนวตั้งมัลติรีเฟคเตอร์ แผงสีดำเงา กรอบชิ้นงานดิฟฟิวเซอร์ขนาดเล็กที่แปลกตา
BMW X4 M Competition LCI มีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่
Carbon Black metallic
Brooklyn Grey metallic (คันทดสอบ)
Bay Blue metallic
Sao Paulo Yellow








การออกแบบตกแต่งภายใน
X4 M Competition มาพร้อมเบาะนั่งสปอร์ต M ปรับไฟฟ้า พร้อมพนักพิงศีรษะแบบปรับไฟฟ้าและโลโก้ M แบบเรืองแสงที่พนักพิงศีรษะ ทำให้ตราสัญลักษณ์บนหัวเบาะนั้นเรืองแสงทั้งกลางวันและกลางคืน เบาะนั่งหุ้มหนัง Merino สีดำ เช่นเดียวกับในรุ่น Bicolor สีส้ม Sakhir/ดำ, สีเทา Adelaide Grey/สีส้ม Sakhir และ Midrand Beige/Black เบาะนั่งหุ้มหนัง Merino ของ BMW Individual ในสี Tartufo มีให้เลือกเป็นออปชันเสริม เบาะนั่งแบบสปอร์ตของ M ปรับด้วยไฟฟ้าทั้งการเดินหน้าถอยหลัง ยก กระดกตัวรองน่อง หรือปรับจุดที่เป็นพนักพิงหลังเพื่อความโอบกระชับ เมื่อต้องขับในสนามแข่ง เข็มขัดนิรภัยแพ็กเกจ Competition เสริมด้วยแถบ BMW M พวงมาลัยหนังมัลติฟังก์ชันของ M สวยงามและประณีตด้วยการเย็บเฉดสีที่ตัดกันของ BMW M








BMW Live Cockpit Professional พร้อม iDrive 7
X4 M Competition ติดตั้ง BMW Live Cockpit Professional เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เครือข่ายอัจฉริยะ รวมถึงบริการดิจิทัล ระบบอินโฟเทนเมนต์ BMW iDrive 7 สามารถโต้ตอบระหว่างคนขับกับรถได้ง่าย ผู้ขับสามารถกำหนดค่าเนื้อหาสดบนจอแสดงผลในเมนูหลักได้สูงสุด 10 หน้า การปรับแต่งเนื้อหาและการแสดงผลในแบบของตัวเอง การทำงานหลายรูปแบบ ได้รับการปรับให้เหมาะสม มีตัวเลือกระหว่างการสั่งงานแบบสัมผัสบนหน้าจอควบคุม ตัวควบคุม BMW iDrive ที่คุ้นเคย ปุ่มมัลติฟังก์ชันบนพวงมาลัย และการสั่งงานด้วยเสียง ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ให้เสียงที่ยอดเยี่ยมคมชัดทั้งการเชื่อมต่อกับมือถือหรือรับฟังวิทยุดิจิทัล BMW Intelligent Personal Assistant, Connected Music การอัปเกรดซอฟต์แวร์ระยะไกล




BMW Live Cockpit Professional เครือข่ายการแสดงผลแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ แผงหน้าปัด TFT LCD ความละเอียดสูงหลังพวงมาลัย จอแสดงผลกลาง แต่ละตำแหน่งมีหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว จอแสดงผลมาตรวัดแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ สามารถแสดงแผนที่นำทางเชื่อมโยงกับมาตรวัดรอบและความเร็ว การแสดงสถานะของระบบช่วยเหลือผู้ขับ การแสดงภาพสภาพแวดล้อม 3 มิติ นอกจากนี้ ยังมี M View พร้อมตัวเลือกการแสดงผลเฉพาะ ซึ่งนำมาจากรุ่น BMW M8 เนื้อหาการแสดงผลเฉพาะของ M มีให้ใช้งานในอุปกรณ์เสริม BMW Head-Up Display

BMW Live Cockpit Professional ระบบมัลติมีเดียและระบบนำทาง พอร์ต USB สองพอร์ตสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลและอินเทอร์เฟซ LAN ไร้สาย ซิมการ์ดที่ติดตั้งถาวร ให้การเชื่อมต่อ 4G LTE ช่วยให้สามารถใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อในระบบดิจิทัลอื่นๆ อีกเพียบ เช่น BMW TeleServices การโทรฉุกเฉิน ข้อมูลการจราจรตามเวลาจริง การแจ้งเตือนอันตราย บริการระยะไกล และบริการผู้ช่วยส่วนตัว ระบบนำทางบนคลาวด์ BMW Maps คำนวณเส้นทางและเวลาที่ถึงอย่างรวดเร็วและแม่นยำ อัปเดตข้อมูลการจราจรตามเวลาจริง BMW Maps พร้อม Connected Parking ให้การสนับสนุนผู้ขับอย่างละเอียดมากขึ้นในการค้นหาที่จอดรถใกล้กับจุดหมายปลายทาง ข้อมูลที่จอดรถบนถนนและบริการ ParkNow ผสานรวมอย่างชาญฉลาดในฟังก์ชันต่างๆ ของ BMW Maps



การผสานการทำงานกับสมาร์ทโฟนและผู้ช่วยส่วนตัวของ BMW การเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay ได้รับการปรับปรุงใหม่ สามารถดูข้อมูลสำคัญทั้งหมดจากแอปบนจอแสดงผลควบคุม ในรูปแบบที่ประมวลผลอย่างชาญฉลาด ในแผงหน้าปัดและ Head-Up Display ความสามารถของ BMW Intelligent Personal Assistant ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ระบบสั่งงานด้วยเสียง ใช้ในการควบคุมเครื่องปรับอากาศ เปิดและปิดหน้าต่าง หรือเปลี่ยนโหมดการขับ นอกจากนี้ BMW Intelligent Personal Assistant เปิดให้เพื่อถึงแอป News สามารถอ่านข่าวล่าสุดให้ฟังได้ เรียนรู้กิจวัตรประจำวัน เช่น หน้าต่างด้านข้างคนขับสามารถเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อมาถึงตำแหน่งที่เลือกซึ่งกำหนดผ่านพิกัด GPS เช่น โรงรถหรือทางเข้าที่จอดรถ ระบบยังรับรู้ว่าผู้ขับหรือผู้โดยสารด้านหน้ากำลังพูดอยู่หรือไม่ และตอบสนองตามนั้น เช่น การปรับเครื่องปรับอากาศด้านเดียวเท่านั้น
BMW iDrive 7 และฟังก์ชันอัปเกรดซอฟต์แวร์ระยะไกล ระบบจะถูกอัปเดตด้วยซอฟต์แวร์ล่าสุดอยู่เสมอ การอัปเกรด ควบรวมเนื้อหาที่หลากหลาย ตั้งแต่บริการใหม่ ไปจนถึงฟังก์ชันของรถที่ได้รับการปรับปรุง สามารถดาวน์โหลดได้แบบ “over-the-air” ผ่านแอป My BMW บนสมาร์ทโฟน หรือลงในรถโดยตรงผ่านซิมการ์ดที่ติดตั้ง นอกจากนี้ ยังสามารถรวมฟังก์ชันเพิ่มเติมของรถไว้ในรถในภายหลัง เช่น BMW Drive Recorder




ชุดควบคุมสำหรับระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน ชุดควบคุมบนคอนโซลกลางออกแบบใหม่ มีต้นกำเนิดมาจาก BMW M3 และ M4 รุ่นปัจจุบัน รวมถึงปุ่มใหม่สองปุ่ม นอกเหนือจากตัวเลือกเกียร์ M พร้อมสวิตช์โยก Drivelogic, BMW Controller และปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์สีแดง ปุ่มตั้งค่า เข้าถึงตัวเลือกการตั้งค่าทั้งหมด สำหรับควบคุมการตอบสนองของเครื่องยนต์และระบบกันสะเทือนได้โดยตรง ปุ่มนี้ใช้เพื่อเข้าถึงเมนูในหน้าจอควบคุม แสดงรายการการตั้งค่าเรียลไทม์ สามารถจัดเก็บและเรียกใช้การตั้งค่าโหมด M ที่กำหนดค่าแยกกันได้สองแบบโดยใช้ปุ่ม M สองปุ่มบนพวงมาลัย



ปุ่มโหมด M ควบคุมการทำงานของระบบช่วยเหลือผู้ขับ ตลอดจนจอแสดงผลบนแผงหน้าปัดและใน Head-Up Display ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ผู้ขับเพียงสลับการตั้งค่า ROAD ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับที่เปิดใช้งานเต็มรูปแบบ โหมด SPORT ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ใช้งานอยู่จะส่งคำเตือนเกี่ยวกับการจำกัดความเร็วและเขตห้ามแซง การแทรกแซงทั้งหมดในระบบชะลอความเร็วและพวงมาลัยจะถูกปิดการใช้งาน ยกเว้นระบบเตือนการชนพร้อมระบบเบรกและระบบช่วยหลบหลีก โหมด TRACK โหมดนี้ออกแบบมาเพื่อใช้ขับในสนามแข่งโดยเฉพาะ ระบบจะปิดใช้งานฟังก์ชันความสะดวกสบายและความปลอดภัยทั้งหมดของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่



ปี 2019 BMW M GmbH พัฒนาเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 6 สูบแถวเรียงของ X4 M Competition รหัส S58B30 เครื่องยนต์ให้กำลัง 473 แรงม้า แรงบิด 442 ปอนด์-ฟุต กำลังจะเพิ่มเป็น 503 แรงม้า ที่ 6,250 รอบต่อนาที ในรถ M Car รุ่น Competition บล็อก S58 เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียงที่ทรงพลังที่สุดที่ผลิตโดย BMW M ประจำการอยู่ในห้องเครื่องยนต์ของ M Car รุ่นอื่นๆ เช่น M3 / X3 M และ M4 เครื่องยนต์รุ่นล่าสุดในปัจจุบันให้แรงบิด 620 นิวตันเมตร (457 ปอนด์-ฟุต)ใน BMW X3 M และ X4 M เวอร์ชันมาตรฐาน แรงบิดจะเพิ่มเป็น 650 นิวตันเมตร (479 ปอนด์-ฟุต) ใน M Car รุ่น Competition ซึ่งรวมถึง X4 M Competition คันทดสอบ แรงบิดเพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร (37 ปอนด์-ฟุต) เครื่องยนต์ถูกปรับแต่งให้มีคุณลักษณะที่ดุร้าย ตอบสนองเร็ว แรงบิดต่อเนื่องตั้งแต่ต้นยันปลาย พร้อมรอบเครื่องที่จัดจ้านสุดๆ ระบบระบายความร้อนที่รองรับงานโหดๆ ในสนามแข่งและระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง เรดไลน์สูงสุดอยู่ที่ 7,200 รอบต่อนาที สาแก่ใจไปตามๆ กัน



S58 ใช้เทอร์โบแฝดแบบโมโนสโครลเทอร์โบชาร์จเจอร์ สองตัว เป็นชุด คอมเพรสเซอร์ที่ถูกอัปเกรดเพิ่มประสิทธิภาพ อินเตอร์คูลเลอร์ที่ขับเคลื่อนโดยวงจรอุณหภูมิต่ำ นอกจากนี้ยังมีระบบดูดอากาศแบบใหม่ ปรับการไหลของอากาศให้เหมาะสม ลดการสูญเสียแรงดัน ระบบวาล์วระบายไอเสียที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งปรับปรุงการปลดปล่อยไอเสียใหม่หมด แรงดันฉีดหัวฉีดไฟฟ้าสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 200 เป็น 350 บาร์ เทคโนโลยีการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงไดเรคอินเจคชันแบบใหม่ที่มีความแม่นยำสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเตรียมส่วนผสม ช่วยลดการปล่อยมลพิษที่ความเร็วรอบสูงหรือเมื่อผู้ขับใช้คันเร่งเต็มที่ ระบบแปรผันเต็มรูปแบบของ Valvetronic เทคโนโลยีการจับเวลาการทำงานของเพลาลูกเบี้ยวแบบแปรผัน Double-Vanos ช่วยเพิ่มกำลังและลดการปล่อยมลพิษ




เครื่องยนต์ที่ทรงพลังต้องการการระบายความร้อนที่ดีกว่า BMW สร้างหม้อน้ำขนาดใหญ่ขึ้นจำนวนสองชุดแยกฝั่ง ซ้าย-ขวา เพิ่มออยคูลเลอร์เครื่องทำความเย็นน้ำมันเครื่อง และเพิ่มออยคูลเลอร์น้ำมันเกียร์แยกต่างหาก ปั๊มน้ำมันที่ควบคุมผ่านซอฟต์แวร์ใหม่ ถังน้ำมันเชื้อเพลิงออกแบบใหม่ มีสองช่องและติดตั้งปั๊มดูดในตัว จำนวนสองตำแหน่ง เทคโนโลยีทั้งหมดเป็นผลงานที่ BMW M จะพิสูจน์ความสามารถและความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์ใน X4M เป็นการปรับจูนให้เครื่องยนต์มีกำลังมากกว่าเดิม


แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 650 นิวตันเมตร ลดเวลาในการเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของ BMW X4 M ลงเหลือแค่ 4.0 วินาที ความเร็วสูงสุด ถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะเพิ่มเป็น 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเลือกออปชัน M Driver’s Package ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม แพ็กเกจนี้ในต่างประเทศ ยังรวมถึงบัตรกำนัลสำหรับการฝึกอบรมการควบคุมรถที่ BMW Performance Center แห่งใดแห่งหนึ่งทั่วยุโรปและอเมริกา




เครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง ใช้เพลาข้อเหวี่ยงน้ำหนักเบาหล่อขึ้นรูป การออกแบบผนังกระบอกสูบและท่อทางเดินของระบบหล่อเย็นที่เน้นความแข็งแกร่งทนทาน เพลาข้อเหวี่ยงและก้านสูบ เลือกวัสดุที่ทนต่อแรงบิดแรงเค้น ช่วยให้สามารถส่งค่าแรงบิดที่สูงขึ้นได้ เพลาข้อเหวี่ยงน้ำหนักเบา ด้วยมวลการหมุนที่ลดลง ส่งผลดีต่อความสามารถในการหมุนของเครื่องยนต์ ห้องข้อเหวี่ยง ออกแบบให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีแรงดันจากการเผาไหม้สูง เพื่อกำลังขับเคลื่อนที่เหมาะสม การเคลือบโลหะที่ผนังกระบอกสูบ ใช้การพ่นด้วยลวดอาร์ค ช่วยลดน้ำหนักและลดการสูญเสียแรงที่เกิดจากการเสียดทาน ในขณะที่ฝาสูบมีแกนที่ผลิตโดยระบบพิมพ์ 3 มิติ กระบวนการผลิตแบบเติมแต่ง สามารถสร้างรูปทรงเรขาคณิตที่ซับซ้อน และไม่สามารถทำได้โดยใช้วิธีการหล่อโลหะทั่วไป




เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ทำให้น้ำหนักของแกนฝาสูบลดลง โครงท่อน้ำหล่อเย็น ได้รับการปรับปรุงในแง่ของการจัดการอุณหภูมิ เทคโนโลยีระบบอัดอากาศ M TwinPower Turbo ประกอบด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ mono-scroll สองตัว จ่ายอากาศอัดไปยังกระบอกสูบ 1-3 และ 4-6 ตามลำดับ เอาต์พุตของย่านกำลัง ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม โดยใช้คอมเพรสเซอร์และการระบายความร้อนด้วยอากาศวงจรอุณหภูมิต่ำ การกำหนดเส้นทางอากาศเข้าที่ปรับแต่งให้เหมาะสมต่อการไหล ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการสูญเสียแรงดันที่ลดลง ในขณะที่มลพิษถูกควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ทำปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มการตอบสนอง วาล์วระบายที่เปิดออกอย่างรวดเร็ว รองรับประสิทธิภาพของแคตตาไลติกคอนเวอร์เตอร์ซึ่งวางตำแหน่งใกล้กับเครื่องยนต์ แรงดันระบบฉีดเชื้อเพลิงสูงสุด 5,076 psi ระบบไดเรคอินเจคชั่น มีความแม่นยำสูง สามารถเตรียมส่วนผสมเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำให้เชื้อเพลิงฉีดพ่นเป็นละอองอย่างละเอียดในห้องเผาไหม้ ให้การตอบสนองที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้ภาระการเร่งความเร็วอย่างเต็ม และในย่านความเร็วสูง ระบบควบคุมวาล์วแปรผัน VALVETRONIC และระบบปรับเพลาลูกเบี้ยวแบบแปรผันต่อเนื่อง double VANOS มีการปรับค่าการทำงานให้สอดคล้องกับรอบเครื่องยนต์ได้ดีกว่าเดิม



ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อถ่ายเทความร้อนออกไปให้ได้มากที่สุด ประกอบด้วยหม้อน้ำสองตำแหน่งด้านข้าง นอกเหนือจากหม้อน้ำกลาง มี ออยคูลเลอร์ ตัวทำความเย็นน้ำมันเครื่องเพิ่มเติม พร้อมตัวทำความเย็นน้ำมันเกียร์แยกต่างหาก ระบบที่ซับซ้อนนี้ช่วยปรับแต่งและทำให้อุณหภูมิในสภาวะการทำงานของเครื่องยนต์อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สำหรับส่วนประกอบของเครื่องยนต์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการขับเดินทางระยะสั้นแบบวันต่อวัน ขับฝ่าสภาพการจราจรในเมือง หรือเมื่ออัดเต็มกำลังในสนามแข่ง ความเชี่ยวชาญด้านมอเตอร์สปอร์ตของ BMW M GmbH เห็นได้จากการออกแบบระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อการทำงานแบบไดนามิก อ่างน้ำมันเครื่องมีสองช่อง แยกต่างหากพร้อมช่องจ่ายในตัว ช่วยให้ปั๊มที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถส่งน้ำมันหล่อลื่นจากอ่างขนาดเล็ก ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกั้นปริมาตร ได้อย่างรวดเร็วและเพียงพอต่อความต้องการในการหล่อลื่นระดับสูง ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเมื่อใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร



ท่อไอเสีย M Sport ของ X4 M Competition เพิ่มเสียงของท่อระบายท้ายที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออยู่ภายใต้ภาระโหลดที่เพิ่มขึ้นและที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์สูง ให้เสียงที่เหมือนรถแข่ง เพื่อประสบการณ์การขับที่เร้าอารมณ์ วาล์วแปรผันของระบบไอเสีย M Sport สามารถผลิตเสียงได้หลากหลายโทน ตั้งแต่ทุ้มต่ำเมื่อเดินเบา ไปจนถึงแฝดสนั่นเมื่อรอบเครื่องกวาดทะลุเกิน 3500 รอบต่อนาที ลากยาวไปถึง 7,000 รอบต่อนาที เสียงเครื่องยนต์และท่อท้าย เชื่อมโยงกับคุณลักษณะของ BMW M Gmbh โหมด SPORT วาล์วบายพาสในท่อระบายจะเปิดออกจนสุด ทำให้ได้เสียงคำรามที่กึกก้อง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ปุ่ม M Sound Control บนคอนโซลกลางเพื่อควบคุมเสียงท่อท้าย เมื่อต้องการให้เงียบขึ้นขณะวิ่งในเมืองที่มีการห้ามใช้เสียงดัง สามารถกดยกเลิกหรือปิดการทำงานของระบบวาล์วปรุงแต่งเสียงของท่อระบายท้าย แต่เสียงเครื่องยนต์ก็ยังหนักแน่นเหมือนเดิม

เกียร์ M Steptronic 8 สปีดพร้อม Drivelogic กำลังในรูปแบบของแรงบิด ถูกส่งไปยังล้อ ผ่านเพลาขับเคลื่อนที่ส่งกำลังมาจากระบบเกียร์ M Steptronic 8 สปีดพร้อม Drivelogic นอกจากการเปลี่ยนเกียร์ในโหมดอัตโนมัติเต็มรูปแบบแล้ว M Steptronic 8 สปีด สามารถเปลี่ยนเกียร์ด้วยตนเอง โดยใช้ตัวเลือกเกียร์ที่คอนโซลกลาง หรือกดไปที่แป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย ในโหมดแมนนวล คุณสามารถเปลี่ยนเกียร์ลงได้หลายอัตราทด ให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อใช้ประโยชน์จากการใช้เอนจิ้นเบรก เมื่อเร่งความเร็วแล้วคาอยู่ในโหมดเกียร์ธรรมดา ระบบเกียร์ M Steptronic 8 สปีด ของ ZF จะไม่มีการบังคับให้เปลี่ยนเกียร์ขึ้น แม้ว่าจะเร่งรอบเครื่องยนต์จนสุดแล้วก็ตาม เกียร์ M Steptronic ออกแบบมาเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วเป็นพิเศษ คลัตช์ล็อกอัพทอร์กคอนเวอร์เตอร์จะปิด 100 เปอร์เซ็นต์ทันที หลังจากสตาร์ตเครื่อง การใช้สวิตช์โยก Drivelogic ซึ่งรวมอยู่ในตัวเลือกเกียร์ ผู้ขับขี่สามารถเลือกลักษณะการเปลี่ยนเกียร์ ทั้งในโหมดอัตโนมัติและโหมดแมนนวล Drivelogic Mode 1 เป็นโหมดสบายๆ ในการปรับเปลี่ยนอัตราทดเมื่อขับในเมือง ในขณะที่การเปลี่ยนไปใช้โหมด 2 จะช่วยเพิ่มความดุดัน และคาบเวลาในการปรับอัตราทดที่เร็วมาก การเปลี่ยนเกียร์ที่สั้นลงทำให้รถพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ระบบจะคาอยู่ในเกียร์ที่มีแรงบิดสูงสุด (เกียร์ 4) ในโหมด 3 ความเร็วในการเปลี่ยนเกียร์จะเพิ่มขึ้นอีก และโปรแกรมเปลี่ยนเกียร์ จะรักษารอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในช่วงรอบสูง เพื่อรองรับการขับขี่เน้นไดนามิกสูงสุด พร้อมแรงบิดที่ทะลักออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้งานบนสนามแข่ง



M xDrive ระบบขับเคลื่อนทุกล้อพร้อม Bias ล้อหลัง
ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ M xDrive เข้ามาเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวของ X4 M Competition ผสานการยึดเกาะที่มีการทดกำลังลงไปที่ล้อเพื่อความสมดุล บางครั้งให้อารมณ์รถขับล้อหลังแนวคลาสสิก ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อมต่อกับระบบรักษาเสถียรภาพ DSC (Dynamic Stability Control) ระบบจะทำงานตามซอฟต์แวร์ที่ปรุงแต่งมาเป็นอย่างดี โดยส่งแรงบิดบางส่วนไปยังเพลาหน้า เมื่อล้อหลังถึงขีดจำกัดของความสามารถในการยึดเกาะกับผิวถนน สั่งการได้ไม่เพียงแค่การทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการกระจายแรงบิดในการขับเคลื่อน ระหว่างล้อหน้าและล้อหลังอีกด้วย



เมื่อเปิดใช้งานโหมด M Dynamic แทนการตั้งค่า DSC โดยเปิดใช้งานการตั้งค่า M xDrive – 4WD Sport จะส่งผลให้มีการกระจายกำลังที่มุ่งสู่ล้อหลังมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถควบคุมการดริฟต์ได้หากมีฝีไม้ลายมือมากพอ แรงบิดในการขับเคลื่อนจะกระจายอย่างต่อเนื่อง และแปรผันเต็มที่ระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง โดยคลัตช์หลายแผ่น ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกล่องเกียร์ จากนั้นตามด้วย Active M Differential เฟืองท้ายที่สอดรับกับการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำให้มั่นใจได้ถึงแรงยึดเกาะ ความคล่องตัว และเสถียรภาพในการขับที่ต้องใช้ความเร็วสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการใช้งานแบบสปอร์ตหรือบนถนนที่มีระดับการยึดเกาะที่แตกต่างกัน การแทรกแซงของระบบควบคุมเสถียรภาพ DSC จะทำงานเท่าที่จำเป็นในสถานการณ์ที่รุนแรงเท่านั้นที่ระบบรักษาเสถียรภาพของตัวรถจะเข้ามายุ่มย่ามเพื่อดึงรถให้กลับเข้ามาอยู่ในเส้นทาง



ระบบควบคุมเสถียรภาพไดนามิก DSC พร้อมโหมดไดนามิก M
DSC (Dynamic Stability Control) ตอบสนองภายในเสี้ยววินาทีต่อสภาพและพื้นผิวถนนที่เปลี่ยนแปลง นอกเหนือจากการแทรกแซงด้วยการเบรกเฉพาะล้อ ควบคุมแรงบิดของล้อแต่ละข้าง เพื่อให้รถทรงตัวได้ดี ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบควบคุมเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) และระบบควบคุมเบรกแบบไดนามิก (DBC) คอยสอดประสานการทำงานเมื่อใช้เบรกหนักๆ ฟังก์ชันของระบบช่วยเบรกจะเพิ่มแรงดันที่หม้อลมเบรก ในโหมด M Dynamic ระบบจะอนุญาตหรือเปิดโอกาสให้มีการลื่นไถลของล้อเพิ่มเติม ทำให้สามารถบังคับการดริฟต์ได้เมื่อใช้งานบนสนามแข่ง เมื่อปิด DSC ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ M xDrive ยังคงทำงานอยู่ เพื่อการกระจายแรงบิดที่เหมาะสมระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลัง แม้ระบบรักษาเสถียรภาพของรถถูกยกเลิกการทำงาน ศักยภาพด้านพลังจะถูกปลดปล่อยออกมาจนหมด

ช่วงล่าง
X4 M Competition เพียบพร้อมไปด้วยการจัดการของระบบรองรับแบบสปอร์ต และการชะลอความเร็วด้วยชุดเบรกที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับความสะดวกสบาย สำหรับการขับทางไกล X4 M Competition พัฒนาด้านความคล่องตัว และความแม่นยำของการเปลี่ยนทิศทาง ตามแบบฉบับของรถ BMW M ทั้งหมด เกิดจากการทดสอบอย่างครอบคลุม ที่ไซต์ทดสอบของ BMW Group ในเมือง Miramas ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส รวมถึงนำรถต้นแบบลงไปวิ่งทดสอบในสนามนรกเขียว Nordschleife ที่ Nürburgring เพื่อปรับแต่งช่วงล่างให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

X4 M Competition ติดตั้งระบบกันสะเทือน M แบบปรับค่าได้ โช้คอัพไฟฟ้า ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้การสัมผัสกับผิวถนนโดยตรงอย่างสุดขีด โดยมีการจำกัดการเคลื่อนไหวของล้อและตัวถัง ช่วงล่างแข็งในสภาวะที่ต้องวิ่งผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ แต่ให้ความหนึบแน่น แน่นอนและมั่นคงมากเมื่อขับเร็ว แรงหน่วงของโช้คอัพไฟฟ้า ถูกปรับแยกกันสำหรับล้อแต่ละล้อที่ระดับต่างๆ อย่างต่อเนื่องโดยใช้วาล์วควบคุมด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าภายใน สามารถปรับลักษณะการหน่วงของโช้คได้ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว โดยมีสามโหมดให้เลือก แต่ละโหมด มีแบบแผนและสไตล์ที่แตกต่างกันออกไปในค่าการตอบสนอง โหมด City จะชดเชยความไม่สม่ำเสมอของถนนในขณะที่ให้เสถียรภาพในการขับขี่ในระดับสูง โหมด SPORT เปิดใช้งานการตั้งค่ารับกระแทกที่กระชับขึ้น สอดคล้องกับการทำความเร็ว โหมด Track จะเพิ่มความกระชับยิ่งขึ้นเพื่อให้ได้ระดับสูงสุดของการเร่งความเร็ว ในสถานการณ์การขับบนพื้นผิวถนนที่เรียบ เช่น ในสนามแข่ง หรือทางตรงยาวบนไฮเวย์ที่ไม่มีการจำกัดความเร็ว



ความแม่นยำของการควบคุม ทั้งทิศทางและการถ่ายเทน้ำหนักในโค้ง หรือการเร่งความเร็วอย่างต่อเนื่อง จากมาตรการที่ครอบคลุมเพื่อเสริมความแข็งแรงของตัวถัง จุดยึดของช่วงล่าง X4 M Competition มีโครงค้ำยันหรือสตรัทบาร์ M สำหรับส่วนหน้า โดยมีค้ำยันในห้องเครื่อง ทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบส่วนกลาง เชื่อมต่อเสาสตรัทกันสะเทือน ออปชันเสริมที่ต้องควักเงินเพิ่ม มีค้ำยันน้ำหนักเบาให้เลือกในรูปแบบ M Carbon เบาและแข็งแรงกว่า พื้นที่ของไฟร์วอลล์ A-brace ถูกรวมไว้ที่ส่วนหน้าของรถ ในขณะที่ตัวค้ำอีก 2 ตัว เพิ่มความแข็งระหว่างเสาสตรัท ระบบกันสะเทือน และส่วนหน้าของรถ นอกจากนี้ ค้ำยันด้านหลัง รวมถึงแกนรับแรงเฉือนของเพลาหลัง ช่วยให้บอดี้มีความแข็งแกร่งในการต้านทานแรงบิดตัวสูงขึ้น ระบบกันสะเทือนหน้าแบบสปริงสตรัทแบบ 2 Link ระบบกันสะเทือนหลังแบบ Five-Link มีลักษณะทางจลนศาสตร์และอิลาสโตไคเนติกออกมาในแนวอิสระ ช่วยให้ควบคุมล้อได้อย่างแม่นยำ ให้เสถียรภาพเมื่อขับไปตามแทร็กของสนามแข่ง การจัดการที่ควบคุมได้อย่างแม่นยำ ระหว่างการเข้าโค้ง ตลอดช่วงการเร่งความเร็ว การสร้างแรงด้านข้างตามแนวเส้นตรง เพื่อใช้จลนศาสตร์เฉพาะของ M ระบบกันสะเทือนหน้า ติดตั้งด้วยลูกปืนเดือยอิสระ สตรัทปรับแรงดึง และปีกนกอัลลอย ที่ยึดลูกยางเฉพาะแบบ จะส่งแรงที่กระทำผ่านแขนควบคุม ไปยังส่วนรองรับเพลาและตัวถัง เสถียรภาพในการขับ การควบคุมทิศทางขณะขับเข้าโค้ง ได้รับการปรับให้เหมาะสมโดยการเพิ่มมุมแคมเบอร์ที่ล้อหน้า ส่วนประกอบเฉพาะและอิลาสโตไคเนติกส์อิสระยังถูกนำมาใช้ในระบบกันสะเทือนหลัง ข้อต่อแคมเบอร์ที่แข็งเป็นพิเศษ ร่วมกับจุดยึดเฉพาะทางของ M ในทุกข้อต่อ รวมถึงในส่วนรองรับเพลาหลัง ช่วยเพิ่มความแม่นยำและความคล่องตัว อุปกรณ์กันโคลง จะตอบสนองมากขึ้น เนื่องจากความแข็งที่สูงกว่า ลดการโคลงตัวและเพิ่มการยึดเกาะ


พวงมาลัย M Servotronic อัตราทดน้ำหนักแปรผัน
ระบบบังคับเลี้ยว M Servotronic แบบกลไกไฟฟ้า รวมระบบช่วยเหลือการผ่อนแรงหมุนที่ไวและะตอบสนองต่อความเร็วผนวกเข้ากับอัตราการบังคับเลี้ยวแบบแปรผัน ในทุกสถานการณ์การขับ พวงมาลัยไฟฟ้า M Servotronic บังคับเลี้ยวได้อย่างแม่นยำ เฉียบคม และมีน้ำหนักที่แปรผันไปตามความเร็วแบบเรียลไทม์ ส่งผ่านการเคลื่อนไหวของพวงมาลัยและน้ำหนักได้อย่างละเอียดอ่อน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การเปลี่ยนทิศทางขณะใช้ความเร็ว หรือการเลี้ยวออกจากที่จอดรถด้วยความเร็วต่ำ อัตราทดแปรผันของพวงมาลัย ขึ้นอยู่กับมุมบังคับเลี้ยว ระบบจะให้ความมั่นคงสูงสุดเมื่อสปีดความเร็วพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่แรงบิดมหาศาลมากถึง 650 นิวตันเมตร ทำให้เกิดแรงดึงที่พวงมาลัยเมื่อกดคันเร่งเต็มเหนี่ยว เมื่อเข้าโค้งอย่างรวดเร็ว M Servotronic จะผ่องถ่ายน้ำหนักเพื่อให้สอดคล้องกับความเร็วที่ใช้ในขณะนั้นๆ เป็นชุดบังคับเลี้ยวที่ให้ความแม่นยำ ควบคุมทิศทางของรถได้ง่าย โดยเฉพาะบนเส้นทางที่คดเคี้ยว การตั้งค่าการบังคับเลี้ยวสามแบบ Road ใช้สำหรับการเปลี่ยนทิศทางที่ราบรื่นพร้อมการตอบสนองที่ดี โหมด SPORT จะเพิ่มการตอบสนองและแรงบังคับเลี้ยว โหมด Track ออกแบบมาเพื่อความรู้สึกในการบังคับเลี้ยวแบบสปอร์ต ต้องใช้แรงบังคับเลี้ยวที่สูงขึ้น ให้การตอบสนองของการควบคุมทิศทางและการหักเลี้ยวในระดับสูงสุดเท่าจะที่เป็นไปได้

M Compound Brake, ล้อ M ลายสุด ขอบ 21 นิ้ว
X4 M Competition ติดตั้งระบบเบรกประสิทธิภาพสูง ของ M คาร์ลิปเปอร์เบรกสีดำพร้อมตราสัญลักษณ์ M คาลิปเปอร์แบบคงที่สี่ลูกสูบที่ด้านหน้า และคาลิปเปอร์แบบลูกสูบเดี่ยวที่ด้านหลัง ให้พลังของการเบรกที่ดี ในทุกสภาวะ คาลิเปอร์เบรกมีโลโก้ M และใช้สีน้ำเงินเป็นสีมาตรฐาน หรือสีดำเงา สีแดง เป็นออปชันเสริม จานเจาะรูและช่องระบายอากาศ จานล้อหน้า 395 มิลลิเมตร หลัง 370 มิลลิเมตร การออกแบบคอมปาวน์ ถูกดัดแปลงมาจากรถแข่งของทีม M ดิสก์เบรกเหล็กหล่อสีเทา เชื่อมต่อกับดุมอะลูมิเนียม การออกแบบในลักษณะดังกล่าว ทำให้ระบบเบรกมีน้ำหนักลดลงและเพิ่มเสถียรภาพด้านการระบายความร้อน

ล้อและยางเป็นส่วนสำคัญของไดนามิกในรถยนต์สมรรถนะสูง BMW X4 M Competition ก็ไม่มีข้อยกเว้น ล้อ M ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางสมรรถนะสูงแบบ non-runflat ขนาด 255/40ZR21 ที่ด้านหน้า และ 265/40ZR21 ที่ด้านหลัง ล้อ M ฟอร์จ Star-Spoke Jet Black Style 892M รุ่นใหม่ ลดน้ำหนักได้มากกว่า 2 กิโลกรัมต่อล้อ


นอกจากชุดควบคุมสำหรับระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซนแล้ว ชุดควบคุมบนคอนโซลกลางยังได้รับการออกแบบใหม่อีกด้วย มีต้นกำเนิดมาจาก BMW M3 และ M4 รุ่นปัจจุบัน รวมถึงปุ่มใหม่สองปุ่ม นอกเหนือจากตัวเลือกในเกียร์ M พร้อมสวิตช์โยก Drivelogic, BMW Controller และปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์สีแดง ปุ่มตั้งค่าช่วยให้เข้าถึงตัวเลือกการตั้งค่าทั้งหมด สำหรับเครื่องยนต์และระบบกันสะเทือนได้โดยตรง: ปุ่มนี้ใช้เพื่อเข้าถึงเมนูในหน้าจอควบคุม แสดงรายการการตั้งค่ารถยนต์ปัจจุบัน สามารถจัดเก็บและเรียกใช้การตั้งค่า M รุ่นต่างๆ ที่กำหนดค่าแยกกันได้สองแบบอย่างถาวรได้ทุกเมื่อ โดยใช้ปุ่ม M สองปุ่มบนพวงมาลัย ทั้งข้างซ้ายและข้างขวา ปุ่มโหมด M ควบคุมการทำงานของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ตลอดจนจอแสดงผลบนแผงหน้าปัดและใน Head-Up Display ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว เพียงสลับการตั้งค่า ROAD ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่เปิดใช้งานเต็มรูปแบบ SPORT ระบบช่วยเหลือผู้ขับที่เปิดใช้งานอยู่ จะส่งคำเตือนเกี่ยวกับการจำกัดความเร็วและเขตห้ามแซง การแทรกแซงทั้งหมดในระบบชะลอความเร็วและระบบช่วงบังคับเลี้ยวของพวงมาลัยไฟฟ้าจะถูกปิดการใช้งาน ยกเว้นระบบเตือนการชน พร้อมระบบเสริมแรงเบรกและระบบช่วยหลบหลีก สำหรับโหมด TRACK ออกแบบมาเฉพาะเพื่อใช้ในสนามแข่ง ระบบจะปิดการใช้งานฟังก์ชันความสะดวกสบายและระบบช่วยทรงตัวของรถทั้งหมด



X4 M มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ล่าสุด Active Driving Assistant ประกอบด้วยการเตือนการชนด้านหน้า พร้อมระบบป้องกันการชนเมื่อขับในเมือง การตรวจจับจุดบอดแบบแอ็กทีฟ การเตือนการออกนอกเลน ข้อมูลการจำกัดความเร็ว แพ็กเกจ Driving Assistance Professional รวมถึงระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบแอ็กทีฟ พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go ที่ใช้งานได้สูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ฟังก์ชันการทำงานที่ได้รับการปรับปรุงสำหรับการจราจรในเมือง การเตือนให้ชิดซ้าย การเตือนทางแยก พร้อมฟังก์ชันเบรกในเมืองเพิ่มเติม ระบบช่วยหลบหลีก ซึ่งตอนนี้ตอบสนองต่อคนเดินถนนและคนขี่จักรยาน คุณสมบัติอื่นๆ ได้แก่ ระบบช่วยหยุดฉุกเฉิน ระบบช่วยรักษาเลนฉุกเฉิน ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถเมื่อเกิดการชนด้านข้าง การแจ้งเตือนสภาพการจราจรติดขัด การแสดงภาพสภาพแวดล้อมแบบ 3 มิติในแผงหน้าปัด จะแสดงภาพรวมว่าระบบช่วยเหลือของ Driving Assistance Professional ฟังก์ชันใดเปิดใช้งานอยู่ และฟังก์ชันใดบ้างที่มีให้ใช้งาน สำหรับระบบช่วยจอดรถ ทำหน้าที่ควบคุมการบังคับเลี้ยวแบบอัตโนมัติ ระบบจะจดจำเมื่อถอยรถตามเส้นทางระยะ 50 หลา Parking Assistant Plus ใช้ Park View, Surround View และ 3D Top View เพื่อสร้างภาพ 360 องศาของรถและสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีภาพสามมิติของยานพาหนะและสภาพแวดล้อมรอบคันส่งไปยังสมาร์ทโฟนโดยใช้ Remote 3D View



ขณะที่ผมกำลังขับรถทดสอบ BMW X4 M Competition สีเทา Brooklyn Grey metallic ราคา 8,599,000 บาท ไปรอบๆกรุงเทพมหานคร ท่ามกลางการจราจรที่คับคั่งแถบสุขุมวิท แม้ว่าจะใช้การตั้งค่าการตอบสนองของระบบขับเคลื่อนในโหมดต่ำสุดหรือโหมด Road เพื่อการควบคุมที่ง่ายที่สุด X4 M ก็ยังมีช่วงล่างที่ค่อนข้างแข็ง ความพยายามที่จะเพิ่มความเร็วในการเข้าโค้งและความสามารถในการลดอาการโคลงตัว วิศวกรแผนก M ได้ปรับแต่งเพื่อทำให้โช้คอัพไฟฟ้าตอบสนองได้อย่างเที่ยงตรงและมีค่าเฉพาะตัวเมื่อเลือกใช้โหมดที่แตกต่างกัน วิศวกรของ M เพิ่มค่าการรองรับแบบพิเศษให้กับเสาสตรัท ล้อขนาด 21 นิ้วสุดสวยแต่ล้างทำความสะอาดยาก ยางสมรรถนะกลางๆ ที่มีแก้มยางแข็งแรงราวกับหิน สุดท้าย ความแข็งของช่วงล่างจะทำให้คุณจะเกิดอาการหวาดกลัวหลุมบ่อไปตลอดทาง มันสะเทือนที่ความเร็วต่ำ แต่มั่นคงและนิ่งเมื่อใช้ความเร็วบนทางด่วน



หากคุณภาพของผิวถนนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ X4 M รุ่นนี้ จะวิ่งได้อย่างเนียนก้น หลังจากวิ่งอยู่ใน กทม. สามสี่วันก็ถึงเวลาที่จะเอาสุดหล่อเอสยูวีคันนี้ ออกไปยังเส้นทางทดสอบที่ผมเลือกใช้ สำหรับรถ M มันจะต้องมีทั้งทางคดเคี้ยวและทางตรงยาว ถนนไฮเวย์จากสุพรรณบุรี มุ่งหน้าไปอำเภอหันคาในจังหวัดชัยนาท ต่อด้วยอำเภอบ้านไร่ในอุทัยธานี คือส่วนผสมที่มีความหลากหลายของเส้นทางทดสอบในวันนี้ แชสซีที่ตึงแน่นตึบ กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของ X4 M Competition M ทุกองคาพยพของรถ รองรับการจัดการด้านการทำความเร็วได้อย่างน่าประหลาดใจ มันเป็น Coupe SAV ที่พยายามซ่อนจุดศูนย์ถ่วงสูงได้เป็นอย่างดี ในขณะที่เชื่อมมุมหนึ่งกับอีกมุมหนึ่งของโค้งได้อย่างน่าประทับใจ การบังคับเลี้ยวแบบปรับค่าการตอบสนองได้ของ BMW มีความตรงไปตรงมา แม่นยำและมีระยะการให้ตัวของพวงมาลัย (ระยะฟรีตรงกลาง) น้อยมาก



การควบคุมแรงม้าและแรงบิด ผ่านระบบขับเคลื่อนทุกล้อ M xDrive สามารถปรับแต่งได้ในระดับที่คุณต้องการ แรงบิดจะถูกแปรผันและเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง ระหว่างล้อหน้าและหลัง โหมด 4WD- Sport กำลังแรงบิดจะเทไปที่ล้อหลัง จากนั้น M Active Differential ทำงานเพื่อแบ่งแรงบิดระหว่างล้อหลังทั้งสองแบบรถสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหลัง ในขณะที่ M xDrive ยังควบคุมการขับเคลื่อน AWD อย่างต่อเนื่อง หลายท่านที่อ่านคอลัมน์ทดสอบนี้เคยขับ M มาก่อน แต่ BMW X4 M ตัวสูงโย่งก็ขับได้เหมือนรถสปอร์ตเตี้ยๆ ระบบกันสะเทือนได้รับการปรับแต่งเพื่อป้องกันไม่ให้รถเอสยูวีพลังสูงหนักเฉียดๆ 2 ตันมีอาการโคลงตัวมากเกินไป ช่วงล่าง Adaptive M ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ให้ประสบการณ์ที่แปลกแยกแตกต่างไปจากการขับรถสปอร์ตเตี้ยๆ แม้ในโค้งมุมแคบที่ยากที่สุด ด้วยความช่วยเหลือจากระบบขับเคลื่อนทุกล้อ M xDrive ทำให้ X4 M Competition มีการยึดเกาะและความเร็วในโค้งที่เหลือเชื่อ โช้คอัพแบบปรับค่าได้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการขับที่มั่นคงอยู่แล้วในโหมดที่เหมาะสม – โหมด Sport ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive และเฟืองท้าย M Active differential ทำงานประสานกัน เพื่อกระจายแรงบิดอย่างเหมาะสมในแต่ละล้อ ยาง Continental Sport contact 6 ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ให้การยึดเกาะในระดับกลางๆ จะดีกว่านี้มากถ้าใส่ยาง Michelin Pilot sport ซึ่งมีส่วนผสมของเนื้อยางและลายดอกยางเหมาะสมกับ X4 M Competition มากกว่า



ระบบส่งกำลังขับเคลื่อนผ่านกระปุกเกียร์อัตโนมัติที่ติดตั้งทอร์คคอนเวอร์เตอร์แปดสปีดที่ปรับเทียบใหม่พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive แบบแปรผันเต็มรูปแบบของ BMW M ซึ่งใช้ร่วมกับ M3, M4 และ M5 มีโหมดขับเคลื่อนจำนวนมากจนน่าตกใจผ่านฟังก์ชัน DriveLogic มาตรฐาน ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนลักษณะของเครื่องยนต์ กระปุกเกียร์ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ช่วงล่าง พวงมาลัย และ DSC (ระบบควบคุมเสถียรภาพไดนามิก) ระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่และระบบกันสะเทือนแบบมัลติลิงค์ที่เป็นรากฐานของ X4 M Competition ได้รับการปรับแต่งใหม่โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการตอบคำวิจารณ์เกี่ยวกับการขับขี่ที่สมบุกสมบัน การเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า Adaptive M set-up รวมถึงโช้คอัพแบบปรับได้ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ความเร็ว



เครื่องยนต์ S58 ที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งเป็นเครื่องเดียวกับที่ประจำการอยู่ใน M3 G80 และ M4 G82 แสดงคุณสมบัติของการปลดปล่อยพลังงานกับแรงบิดที่น่าอัศจรรย์ คุณจะพบกับพลังกระชากที่รุนแรงต่อเนื่องเมื่อกดคันเร่งลงจนสุด ความยืดหยุ่นโดยรวมทำให้ M Car รุ่นนี้ มีศักยภาพหรือความสามารถในการขับเคลื่อนระดับสูง เมื่อโหมด Road ถูกเปลี่ยนไปเป็น Sport บนถนนโล่งๆ เครื่องยนต์หกสูบเรียงเทอร์โบชาร์จคู่ ทำงานอย่างขยันขันแข็ง ให้แรงบิดช่วงกลางขนาดมโหฬารไปจนสุดปลายรอบ เครื่อง S58 หมุนด้วยความกระตือรือร้นจนถึงขีดแดงหรือเรดไลน์ ที่ 7,200 รอบต่อนาที จากคันเร่งที่ตอบสนองอย่างว่องไว ทุกส่วนของรถ ถูกปรับตั้งมาเป็นอย่างดี ทำให้ฟีลลิ่งที่ได้รับนั้นนับว่าสุดยอด BMW X4 M Competition หนัก 2 ตัน ทำเวลา 0–100 กม./ชม. เพียง 3.9 วินาที เมื่อเปรียบเทียบกับ Macan GTS ที่ปรับโฉมไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 เทอร์โบคู่ ขนาด 324 กิโลวัตต์ ความจุ 2.9 ลิตร ของ Porsche มีอัตราเร่งอย่างเป็นทางการ 0–100 กม./ชม. ที่ 4.3 วินาที สำหรับความเร็วสูงสุดของ X4 M Competition ถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. เมื่อควักเพิ่มกับออปชัน BMW M Driver’s Package ระบบจะปลดล็อกความเร็วให้ทะยานไปได้ถึง 285 กม./ชม.



เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ถูกปรับปรุงให้รองรับแรงบิดที่เพิ่มขึ้นของ X4 M Competition ได้เป็นอย่างดี เกียร์ ZF กลายเป็นชุดส่งกำลังสองบุคลิก ทั้งขับเรื่อยๆ ไหลขึ้นลงอย่างเนียน กับกระชากกระชั้นเมื่อคาอยู่ในโหมดสูงสุด มีคุณสมบัติการทำงานที่ราบรื่นและรวดเร็ว ทั้งหมดนี้ได้รับการสนับสนุนจากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive และเฟืองท้าย M Active Differential สิ่งที่ทำให้ประทับใจมากยิ่งขึ้นคือความแม่นยำและความคล่องตัวโดยรวมของ X4 M Competition ความรู้สึกมั่นคงในการควบคุมและคุณภาพไดนามิกที่สร้างความมั่นใจ มีการบังคับเลี้ยวที่ดีกว่าในรุ่น X4 รุ่นมาตรฐาน พร้อมด้วยการควบคุมตัวรถที่ตึงไม้ตึงมือ การยึดเกาะที่แนบแน่นไปกับผิวถนนและความบันเทิงเมื่อใช้ความเร็วต่อเนื่อง



X4 M Competition LCI เป็นรถสำหรับนักขับตัวจริง มันขับได้เหมือนที่คุณคาดหวัง การตอบสนองดีเยี่ยม ประสิทธิภาพที่เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับความแม่นยำที่น่าดึงดูดและการควบคุมที่สร้างความมั่นใจ M Competition สะท้อนถึงความสามารถทางเทคนิคระดับสูง ความเร็วและศักยภาพบนถนนที่เหมาะสม สะท้อนถึงความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับมอเตอร์สปอร์ตอย่างเหนียวแน่น เป็นเหตุผลว่าทำไม BMW M จึงต้องมีรุ่น Competition ออกมาขายต่อจากรุ่นมาตรฐาน.
รายละเอียดด้านเทคนิค
เครื่องยนต์และสมรรถนะ เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo
ชนิดเครื่องยนต์ แถวเรียง 6 สูบ เทอร์โบ
ปริมาตรกระบอกสูบ 2,993 ลูกบาศก์เซนติเมตร
กําลังสูงสุด 375 กิโลวัตต์/ 503 แรงม้า/6,250 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร/2,750 – 5,500 รอบต่อนาที
ระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ย 250 กรัม/กิโลเมตร
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย – อ้างอิงผล ECO Sticker ( 9.0 กิโลเมตร/ลิตร)
มิติรถยนต์
มิติรถยนต์ ยาว 4,754 มิลลิเมตร กว้าง 1,927 มิลลิเมตร สูง 1,620 มิลลิเมตร
ปริมาตรในการบรรจุของ 525 – 1,430 ลิตร
น้ำหนักรถสุทธิ (1,970 กิโลกรัม)
อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 4.0 วินาที
ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ล้อ/ขนาดยาง
ล้ออัลลอย M ขนาด 21 นิ้ว ลาย Double-spoke แบบสลับสี
ล้อหน้า: 9.5 J x 21 / ยาง 255/40 ZR21
ล้อหลัง: 10 J x 21 / ยาง 265/40 ZR21
เกียร์อัตโนมัติ M 8 จังหวะ พร้อม Drivelogic
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop&Go (Active cruise control with Stop&Go function)
ระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Professional (Driving Assistant Professional)
ระบบ BMW Head-up Display
ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant)
ระบบท่อไอเสีย M Sport
Competition package
อุปกรณ์ภายนอก
ชุดเบรก M compound brake, black high-gloss
ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System)
กุญแจรีโมทระบบสัมผัส (BMW Display Key)
ราวหลังคาสีดำเงา
หลังคากระจก Panorama เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ภายนอกพร้อมชุดแต่งตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับตามทิศทางหมุนของพวงมาลัย (Adaptive LED)
อุปกรณ์ภายใน
เบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์ M Sport
เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M
ภายในตกแต่งด้วยวัสดุ Carbon Fibre
ฟังก์ชันช่วยการจัดเก็บสัมภาระ
ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร
BMW Live Cockpit Professional
ระบบ BMW ConnectedDrive
ฟังก์ชันสั่งงานระบบ iDrive ด้วยการเคลื่อนไหวมือ (BMW Gesture Control)
ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon
ระบบเชื่อมต่อ Smartphone
ระบบความปลอดภัย
ถุงลมนิรภัยสําหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ถุงลมนิรภัยศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง (ยกเว้นผู้โดยสารตอนหลังกลาง)
ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)
ระบบเตือนสถานะของยาง (Runflat Indicator)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC)
ระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
กล้องแสดงภาพด้านหลัง
ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC)
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS)โคมไฟหน้าตกแต่งสีดำ (BMW Individual Lights Shadow Line)
เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor)
ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection)
ระบบ Active Protection
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://thaihotnews.info/