
Mercedes-Benz SL Pagoda Top W113
งานเจนีวามอเตอร์โชว์ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506) เป็นฉากเปิดอันยิ่งใหญ่ของการแสดงในรอบปฐมทัศน์ที่มีความโดดเด่นในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ Daimler-Benz ใช้โอกาสทองดังกล่าวทำการเปิดตัว Mercedes-Benz 230 SL ซึ่งเป็นรถสปอร์ตรุ่นใหม่ที่เข้ามาแทนที่ SL สองรุ่นก่อน (190 SL W121) และ 300 SL W198) รถรุ่นพี่ทั้งสองโมเดล เมื่อออกขายก็ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างมากตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 300 SL ที่ยังคงเป็นตำนานแห่งจักรกลไร้หลังคาในยุคร็อคแอนด์โรลอย่างแท้จริงจนถึงทุกวันนี้
.css-1b3yg0y #forum2022-logoSponsor{text-align:center;}.css-1b3yg0y .forum2022-logoSponsor-text{font-family:”KaLaTeXa Display”;font-size:10px;position:relative;z-index:3;}.css-1b3yg0y .forum2022-logoSponsor-text span{background-color:#ffffff;padding:0 10px;position:relative;z-index:3;}.css-1b3yg0y .forum2022-logoSponsor-text::after{content:”;height:1px;width:100%;background-color:rgb(216,216,216);position:absolute;top:50%;left:0;-webkit-transform:translateY(-50%);-ms-transform:translateY(-50%);transform:translateY(-50%);z-index:2;}.css-1b3yg0y ul.forum2022-logoSponsor{padding:0;margin:0;list-style:none;display:-webkit-box;display:-webkit-flex;display:-ms-flexbox;display:flex;-webkit-flex-wrap:wrap;-ms-flex-wrap:wrap;flex-wrap:wrap;gap:15px;-webkit-box-pack:center;-webkit-justify-content:center;-ms-flex-pack:center;justify-content:center;}.css-1b3yg0y ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor{height:80px;}.css-1b3yg0y ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor img{height:80px;}


SPONSORED

W113 ซึ่งเป็นรถ SL รุ่นใหม่ (ในยุคนั้น) เดินสู่ทางสายกลาง ระหว่างแนวคิดของ 190 SL และ 300 SL ซึ่งเป็นรถรุ่นพี่ สำหรับรุ่นน้องตาตั้ง 230 SL รหัสตัวถัง W113 ใช้การรักษาสมดุลอย่างชาญฉลาด ระหว่างการปรับจูนแบบสปอร์ตของรถ Roadster ทรงคลาสสิก บวกกับการเพิ่มเติมความสะดวกสบายให้กับคนขับและผู้โดยสาร พร้อมสมรรถนะที่ดีกว่าเดิม รวมไปถึงคุณสมบัติขั้นสูงสุดของระบบความปลอดภัยที่หาได้ยากในรถยนต์ยุคนั้น


Mercedes-Benz 230SL W113 วางจำหน่ายตั้งแต่ฤดูร้อนปี ค.ศ. 1963 (พ.ศ. 2506) ด้วยหลังคาที่มีให้เลือกมากถึงสามรูปแบบ เริ่มจากหลังคาผ้าแบบพับได้ น้ำหนักเบาและออกแบบให้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย ตามด้วยรุ่นเปิดประทุนที่มีหลังคาแข็งแบบฮาร์ดท็อปยกถอดออกได้ แต่ตัวถอดหลังคาแล้วห้อยไว้นั้นเหมาะกับรถยนต์ในพิพิธภัณฑ์มากกว่า หลังคาแบบสุดท้ายเป็นหลังคาฮาร์ดท็อปแนวรถคูเป้ สำหรับ W113 รุ่นนี้ จะไม่มีช่องเก็บหลังคาแบบ soft-top แต่มีพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระมากกว่าเดิม ทั้งสามเวอร์ชันสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยการเปิดหลังคารับลม เบาะนั่งขวางด้านหลังเป็นอุปกรณ์เสริม เช่นเดียวกับ 190 SL แต่เหมาะกับหมาชิวาวามากกว่าจะให้คนเข้าไปนั่ง ส่วนใหญ่ จึงใช้วางกระเป๋าราคาแพงของสุภาพสตรีหรือของกระจุกกระจิกมากกว่า


SPONSORED


ภายนอกของ 230 SL W113 มีลักษณะของเส้นนำสายตาที่ชัดเจน เน้นความปราดเปรียวเพรียวลมจนทำให้รถดูเหมือนคนหัวโตก้นปอด ส่วนท้ายที่แบนและเล็ก เพื่อปรับให้บั้นท้าย มีรูปทรงที่สอดรับกับส่วนหัวของรถ กระจังหน้าตราดาว Mercedes star ขนาดใหญ่อยู่กึ่งกลาง ไฟหน้าทรงตั้งแบบตาตั๊กแตน ฝากระโปรงหน้ามีส่วนนูนเพิ่มเติมเล็กน้อยตรงกลาง เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับเครื่องยนต์หกสูบเรียงที่วางในลักษณะค่อนข้างจะตั้งตรง (ฝาสูบนั้นโด่งขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ขอบของซุ้มล้อออกแบบให้มีมิติอย่างลงตัว หลังคาแข็งที่มีหน้าต่างทรงสูง เสาหน้าหรือเสาเอบางเฉียบ สื่อถึงความรู้สึกที่โปร่งและเบา ซึ่งไม่ตรงกับแบบแผนของรถสปอร์ตในยุคนั้น การออกแบบส่วนโค้งของหลังคาที่ตรงเข้าหาด้านใน ทำให้นึกถึงวัดในตะวันออกไกล มีส่วนที่ทำให้ SL W113 มีชื่อเล่นก่อนที่มันจะออกไปโลดแล่นอยู่บนถนน นั่นคือ Pagoda Top หรือหลังคาทรง “เจดีย์” จากรูปทรงของหลังคาฮาร์ดท็อป ที่ทำให้เข้าและออกจากห้องโดยสารได้ง่ายขึ้น
SPONSORED


ตัวเลขระยะฐานล้อ 2,400 มิลลิเมตร ยังคงเหมือนกับรถรุ่นพี่อย่าง 190 SL และ 300 SL แต่ W113 รุ่นใหม่แทบไม่มีอะไรที่เหมือนกับ SL รุ่นก่อน ในทำนองเดียวกัน รหัสตัวถัง W113 ไม่ได้ใช้การออกแบบใหม่ทั้งหมด เนื่องจากแนวคิดทางเทคนิคส่วนใหญ่ สอดคล้องกับรถสปอร์ตรุ่นใหญ่อย่าง 220 SE (W 111/3) ซึ่งถือเป็นต้นตระกูลของ S-Class Cabriolet เจ้า W113 SL ใช้ชุดประกอบพื้นเฟรม “tailfin” ตัวถังสั้นลงและมีการเสริมแชสซีให้แข็งแรงขึ้นเพื่อป้องกันอาการบิดตัวของรถเปิดหลังคา แต่ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังยังใช้ของ W111/3
SPONSORED


นอกจากเกียร์ธรรมดาสี่สปีดแบบมาตรฐานแล้ว SL ยังใช้เกียร์อัตโนมัติสี่สปีดเป็นออปชันเสริม หลังจากนั้นก็จะมีเกียร์แมนนวลที่มีอัตราทดเพิ่มขึ้นมาอีกเกียร์เป็นออปชันเสริมที่ลูกค้าต้องควักเพิ่ม นับเป็นครั้งแรกในรถสปอร์ตรุ่น SL ที่มีระบบส่งกำลังแบบธรรมดา 5 สปีด เกียร์แมนนวลลูกนี้ ผลิตโดยบริษัทเกียร์ชั้นนำอย่าง Zahnradfabrik Friedrichshafen (ZF) ซึ่งเพิ่มเข้ามาในเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 1966 (2509)


Pagoda Top เป็นรถ SL รุ่นแรกที่สามารถทำความเร็วแบบรถสปอร์ต รวมกับระบบความปลอดภัยที่กลายเป็นเป้าหมายของการออกแบบ เนื่องจากพื้นฐานของ W113 ใช้แชสซี “Tailfin” ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นรถเก๋งคันแรกของโลกที่มีตัวถังนิรภัย SL รุ่นนี้ จึงมีห้องผู้โดยสารที่แข็งแกร่ง โซนรับแรงกระแทกของส่วนหน้าและส่วนท้าย ออกแบบให้เปลี่ยนรูปได้ง่าย เพื่อการกระจายแรงปะทะ การออกแบบในลักษณะดังกล่าว เป็นของวิศวกร Béla Barényi ซึ่งรับผิดชอบคุณสมบัติด้านความปลอดภัยในรถยนต์ของแบรนด์ตราดาว ภายในห้องโดยสารก็ยังใช้การออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เพื่อลดอันตรายจากการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ มีการกำจัดมุมและขอบที่แข็งออกไปจนหมด เช่นเดียวกับในรุ่นก่อนหน้า เข็มขัดนิรภัยมีให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริม พวงมาลัยถูกย้ายจากส่วนหน้าที่มีระบบป้องกันการชนไปยังไฟร์วอลล์ แกนพวงมาลัยแบบยุบตัวได้ ใช้ข้อต่อที่ป้องกันผลกระทบจากการชนปะทะด้านหน้า ในปี 1967 (พ.ศ. 2510) มีการเพิ่มคอพวงมาลัยนิรภัยแบบเหลื่อมและตัวดูดซับแรงกระแทกในพวงมาลัย


แชสซี เครื่องยนต์ และเกียร์
แชสซีที่นำมาจาก 220 SE (W 111) Saloon ได้รับการปรับให้เข้ากับความต้องการของรถสปอร์ตในด้านไดนามิก ระบบบังคับเลี้ยวแบบ recirculating ball steering ระบบเบรกแบบสองวงจร และดิสก์เบรกที่ล้อหน้า ระบบกันสะเทือนถูกปรับตั้งให้แข็งกว่าเดิม เพื่อเพิ่มการยึดเกาะขณะทำความเร็ว การหน่วงของแกนโช้คอัพ เกิดจากโช้คอัพแก๊สแบบใหม่ และเป็นครั้งแรกที่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลแบบสปอร์ตของแบรนด์ตราดาวหันมาใช้ยางเรเดียลเพื่อความปลอดภัย


เครื่องยนต์หกสูบมาจากรถเก๋ง Saloon มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายจุด ซึ่งตำแหน่งที่สำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนจากปั๊มฉีดแบบสองลูกสูบไปเป็นหกลูกสูบ ทำให้ฉีดเชื้อเพลิงได้โดยตรงผ่านช่องไอดีที่อุ่นไว้และวาล์วไอดีที่เปิดเข้าไปในห้องเผาไหม้ ไม่ใช่แค่เข้าไปในท่อไอดีเหมือนเมื่อก่อน เครื่องยนต์ M 127 II ขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้มีความจุ 2.3 ลิตร กำลัง 150 แรงม้า (110 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 196 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที ด้วยขุมกำลังที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เจ้าของ SL W113 ในยุคนั้น พึงพอใจกับการทำความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น




ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 4 สปีด ออกแบบให้มีอัตราทดเกียร์ที่ต่ำกว่าเล็กน้อยในเกียร์ 1 มอบอัตราเร่งแบบสปอร์ตที่ดีขึ้น อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 9.7 วินาที ความเร็วสูงสุดของ 230 SL หลังคาผ้า คือ 200 กม./ชม. เพราะตัวเบาสุด ส่วนรุ่นหลังคาแข็งที่มีน้ำหนักมากกว่า ทำท็อปสปีดได้ 196 กม./ชม. รุ่นเกียร์อัตโนมัติทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 195 กม./ชม. ในสายตาของบรรดานักขับรถสปอร์ตในยุคนั้น ระบบส่งกำลังอัตโนมัตินั้นดูจะเป็นของคนที่ขับรถไม่เก่ง แต่ประวัติศาสตร์ได้สอนบทเรียนที่แตกต่างให้กับเรา เมื่อถึงเวลาที่ Pagoda SL ยกเลิกสายการผลิต เพื่อเปลี่ยนเป็นรถโมเดลใหม่ W113 รุ่นเกียร์อัตโนมัติมีสัดส่วนในการขายมากถึง 77 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นเกียร์ธรรมดา พวงมาลัยเพาเวอร์ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในลักษณะออปชันเสริมเช่นกัน W113 กลายเป็นผู้บุกเบิกในด้านความนิยมที่เพิ่มขึ้นของรถสปอร์ตสองที่นั่งตระกูล SL ทั้งหมด มีประสิทธิภาพของการขับที่ดีเป็นพิเศษ รวมถึงความสะดวกสบายที่มากกว่า 190SL จำนวน 19,831 คัน จากยอดขายในรุ่น 230 SL บ่งบอกถึงความนิยมได้เป็นอย่างดี ด้วยตัวเลขการผลิตที่ไม่มา ทำให้ทุกวันนี้ W113 230 SL กลายเป็นของหายากราคาแพงไปโดยปริยาย



วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) Mercedes-Benz เปิดตัว W113 รุ่น 250 SL ซึ่งเข้ามาแทนที่ 230 SL ที่ผลิตมาสี่ปี การเปลี่ยนแปลงหลักๆ ของมันเกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์และระบบเบรก มีการดัดแปลงเล็กน้อยจากรถซาลูนรุ่น 250 SE (W 108 III) เครื่องยนต์ M 129 III ซึ่งขยายความจุเพิ่มอีก 200 ซีซี. แต่ดันมีกำลังเท่ากับ 230 SL ที่ 150 แรงม้า (110 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบต่อนาที แต่มีแรงบิดเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ และกราฟเส้นโค้งแรงบิดที่ราบเรียบขึ้น มีตลับลูกปืนเพลาข้อเหวี่ยงเจ็ดตัว เพื่อการทำงานที่ราบรื่นยิ่งขึ้นของเครื่อง แถมด้วยประสิทธิภาพการระบายความร้อนเครื่องยนต์ดีขึ้น แต่มีจุดที่ควรสังเกตก็คือ เฉพาะรุ่น 280 SL เท่านั้นที่จะติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ดังนั้น Pagoda รุ่น 250 SL จึงมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า แต่วิ่งได้ไม่เร็วเท่า 230SL เนื่องจากน้ำหนักที่มากขึ้น ความเร็วสูงสุดของ 250 SL พร้อมเกียร์ธรรมดาสี่สปีดคือ 195 กม./ชม. หรือ 200 กม./ชม. ขึ้นอยู่กับอัตราทดเกียร์สุดท้าย (มาตรฐาน: 1:3.92 ตัวเลือก: 1:3.69 เกียร์อัตโนมัติ: 190 กม./ชม. หรือ 195 กม./ชม). ด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่มีให้ในรุ่นเดียวเท่านั้น (อัตราทด 1:4.08) โดยทำความเร็วได้ถึง 200 กม./ชม.


การเปลี่ยนแปลงระบบเบรก กับดิสก์เบรกที่ล้อหลัง (หลังจากใช้ดรัมเบรกมานาน) จานเบรกขนาดใหญ่ขึ้นที่ด้านหน้า และการติดตั้งตัวควบคุมแรงเบรก เพื่อป้องกันไม่ให้ล้อหลังมีกำลังในการเบรกมากเกินไป ส่วน differential lock เป็นอุปกรณ์เสริมที่ต้องควักเพิ่มหากอยากได้ ความจุถังน้ำมัน 82 ลิตร แทนที่จะเป็น 65 ลิตรในรุ่นก่อนหน้า เหมาะสำหรับการขับทางไกลแบบข้ามรัฐในอเมริกา นอกจากหลังคาสามแบบที่รู้จักกันดี ในรุ่น 230 SL แล้ว 250 SL ยังวางจำหน่ายในรุ่นที่สี่ ซึ่งเป็นรถคูเป้พร้อมเบาะนั่งด้านหลังที่เล็กมาก โดยจัดแสดงเป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2510 ในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ ในเวอร์ชันที่เรียกกันว่า California version พื้นที่ของเบาะนั่งด้านหลังอันคับแคบนี้ ได้มาจากการปรับช่องเก็บหลังคาผ้าแบบซอฟต์ท็อปแล้วใส่เบาะหลังเข้าไป (ไม่รู้จะทำไปทำไม)


หนึ่งปีหลังจากการเปิดตัว 250 SL ที่ถูกผลิตออกมาขายแค่ 5196 คัน เวลาก็เดินทางมาถึงสำหรับการเปิดตัวรุ่น 280 SL ด้วยฝาครอบดุมล้อที่ต่างกัน เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร เพลาลูกเบี้ยวที่มีการเปลี่ยนจังหวะการทำงานของวาล์ว เครื่องยนต์ M 130 ที่ใช้ใน 280 SL ให้กำลังเพิ่มขึ้น 10 แรงม้า เทียบกับ 250 SL กำลังเพิ่มขึ้นประมาณ 20 แรงม้า (15 กิโลวัตต์) และแรงบิดเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นครั้งแรกที่พัดลมหม้อน้ำได้รับการติดตั้งด้วยคัปปลิ้งแบบหนืด ซึ่งจำกัดความเร็วด้านอัตราเร่ง 0 ถึง 100 กม./ชม. อยู่ในตัวเลขใกล้เคียงที่ 9 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. ระบบกันสะเทือนที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น นุ่มนวลขึ้น ขยายระยะให้บริการเป็น 10,000 กิโลเมตร



Mercedes-Benz 280 SL ที่เร็วและเชื่อถือได้จำนวน 23,885 คัน ออกจากสายการผลิตในโรงงานแล้วตรงไปยังบ้านของลูกค้าทันที โดยรวมแล้ว ตั้งแต่ปี 1963-1971 (2506 ถึง 2514) มีการผลิต W113 ทั้งหมด 48,912 คัน นับเป็นโมเดล SL ที่โดดเด่นสำหรับรถสปอร์ตที่ถูกยกระดับและกำหนดให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น คุณภาพโดยรวม ความสง่างาม และเส้นสายที่ชัดเจนทำให้ W113 เป็นรถยนต์คลาสสิกที่นักสะสมชื่นชอบ
ไฮไลต์ทางเทคนิคของ Mercedes-Benz SL, W113 series
หลังคาผ้าแบบพับได้ ออกแบบให้ใช้งานง่าย
เครื่องยนต์หกสูบ พร้อมปั๊มฉีดเชื้อเพลิงแบบใหม่
เป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติในโมเดล SL
ตัวถังนิรภัยพร้อมห้องโดยสารที่แข็งแรง ส่วนหน้าและส่วนหลังออกแบบให้กระจายแรงกระแทก
คุณสมบัติด้านความปลอดภัย เช่น ภายในที่ไร้ขอบคมและคอพวงมาลัยแบบปรับมุมได้
ดิสก์เบรกล้อหลังแทนที่ดรัมเบรกแบบเดิม
Models
230 SL W 113 1963-1967 19,831
250 SL W 113 A 1966-1968 5,196
280 SL W 113 E 28 1967-1971 23,885
Total 48,912
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://thaihotnews.info/
